บริษัทเทคโนโลยีแอมะซอน กล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าใช้ "การกดดันอย่างไม่เหมาะสม" และอคติส่วนตัว ทำให้แอมะซอนพลาดโอกาสได้รับสัญญาวางระบบคลาวน์สำหรับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน มูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์
แอมะซอน ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อศาลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่าสาเหตุที่คู่แข่งสำคัญ คือ ไม่โครซอฟท์ ได้สัญญาดังกล่าวไป เป็นเพราะอคติส่วนตัวที่ ปธน.ทรัมป์ มีต่อนายเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และเจ้าของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวโจมตีนายเบโซสหลายครั้งเรื่องการจ่ายภาษีในระดับต่ำ และกล่าวหาวอชิงตันโพสต์ว่าเป็นสื่อที่นำเสนอ "ข่าวปลอม"
แอมะซอนระบุในเอกสารคำร้องต่อศาลว่า การที่ทรัมป์ให้ร้ายแอมะซอนทั้งต่อหน้าและลับหลังสื่อ คือแรงกดดันที่ทำให้แอมะซอนพลาดสัญญามูลค่ามหาศาลนี้ และว่าการที่ทรัมป์ลงมาแทรกแซงในเรื่องนี้ ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เพนตากอนจะเลือกผู้ได้รับสัญญาดังกล่าวอย่างยุติธรรม
ในคำร้องต่อศาล แอมะซอนยังขอให้เพนตากอนทบทวนการตัดสินใจนี้อีกครั้ง อย่างเป็นอิสระจากการกดดันของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้านโฆษกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงยืนยันว่าการตัดสินใจเลือกไมโครซอฟท์กระทำโดยคณะผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง โดยไม่เกี่ยวข้องกับแรงกดดันหรืออิทธิพลจากภายนอก
โครงการวางระบบคลาวน์คอมพิวเตอร์ ที่มีชื่อว่า Joint Enterprise Defense Infrastructure, or JEDI คือส่วนหนึ่งในความพยายามของเพนตากอนในการเก็บรวบรวมข้อมูลทางทหารและข้อมูลลับปริมาณมหาศาล โดยมีบริษัทเทคโนโลยีหลายรายในสหรัฐฯ ที่แข่งขันกัน และไมโครซอฟท์ได้รับเลือกในที่สุด แม้ว่าที่ผ่านมาแอมะซอนจะได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้ชนะก็ตาม