บริษัทเทคโนโลยีจีน อาลีบาบา เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ Qwen 2.5 ที่อ้างว่ามีศักยภาพเหนือกว่า DeepSeek-V3 ของบริษัทดีพซีค ที่สร้างแรงกระเพื่อมในวงการเทคโนโลยีทั่วโลกเมื่อต้นสัปดาห์ ในฐานะโปรแกรมผู้ช่วยเอไอต้นทุนต่ำ
อาลีบาบาเลือกวันตรุษจีน ที่ชาวแดนมังกรส่วนใหญ่หยุดงานและเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่บ้านเกิด เปิดตัวโมเดล Qwen 2.5-Max ชี้ให้เห็นถึงแรงกดดันจากบริษัทสตาร์ทอัพดีพซีค ทั้งในตลาดต่างประเทศและในประเทศตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้
หน่วยงานระบบคลาวด์ของอาลีบาบา ระบุในแถลงการณ์ทางบัญชีวีแชทของบริษัท โดยกล่าวถึงบริษัทโอเพ่นเอไอ และโมเดลเอไอแบบโอเพ่นซอร์ซของเมตา แพลตฟอร์มสว่า “Qwen 2.5-Max มีประสิทธิภาพเหนือกว่า ... ในเกือบทุกโมเดลเอไอ ทั้ง GPT-4o, DeepSeek-V3 และ Llama-3.1-405B”
ทั้งนี้ เมื่อ 10 มกราคม ดีฟซีค เปิดตัว ผู้ช่วยอัจฉริยะจากระบบปัญญาประดิษฐ์ ที่ได้ขุมพลังอย่างโมเดลเอไอ DeepSeek-V3 และเปิดตัวโมเดล R1 เมื่อ 20 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความตกตะลึงไปทั้งซิลิคอนแวลลีย์ และเกิดแรงเทขายหุ้นเทคโนโลยีอย่างหนัก เนื่องจากสตาร์ทอัพแดนมังกรแห่งนี้มีต้นทุนในการพัฒนาและใช้งานโมเดลเอไอที่ต่ำ จนทำให้นักลงทุนตั้งคำถามถึงแผนการใช้จ่ายและลงทุนของบริษัทเอไอชั้นนำในอเมริกาขึ้นมา
ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จของดีฟซีคยังนำไปสู่การแข่งขันยกระดับโมเดลเอไอของบริษัทในประเทศด้วยเช่นกัน เพราะ 2 วันหลังเปิดตัว DeepSeek-R1 บริษัทไบต์แดนซ์ เจ้าของติ๊กตอก เปิดตัวโมเดลเอไอเรือธงที่อัพเดทล่าสุด ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่า o1 ของโอเพ่นเอไอ ในการทำความเข้าใจและตอบสนองคำสั่งที่ซับซ้อน แต่เรื่องนี้กลับยิ่งตอกย้ำคำกล่าวอ้างที่ว่าโมเดล R1 ของดีพซีคนั้นทัดเทียมกับโมเดล o1 ของโอเพ่นเอไอด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น