เมื่อแม่ชีแห่ง มาเรเดรท์ แอบบีย์ (Maredret Abbey) ในประเทศเบลเยียมประสบปัญหาระดมทุนเพื่อปรับปรุงโบสถ์เสียใหม่ แม่ชีเหล่านี้ได้หันมาใช้วิธีที่พระหรือนักบวชชายในประเทศใช้มานานหลายร้อยปี นั่นคือการหมักเบียร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อห้าปีก่อน แม่ชีกว่า 20 ท่าน ได้ร่วมมือกับโรงหมักเบียร์เพื่อผลิตเบียร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และค่านิยมของโบสถ์ ในขณะเดียวกันก็เพื่อหาเงินทุนมาซ่อมแซมหลังค่าที่รั่วซึม และผนังที่แตกร้าวของคอนแวนต์นิกายคาธอลิกนี้ด้วยด้วย
หลังจากที่ร่วมมือกับโรงหมักเบียร์และผู้นำเข้าเบียร์อย่าง จอห์น มาร์ติน แม่ชีเหล่านี้ก็สามารถผลิต เบียร์ออกมา 2 แบบ คือ Maredret Altus ซึ่งเป็นแอมเบอร์เบียร์สีน้ำตาลคล้ายอัมพันที่มีแอลกอฮอล์ 6.8 เปอร์เซ็นต์ โดยมีกานพลูและจูนิเปอร์ เบอร์รี่เป็นส่วนผสม และ Maredret Triplus เบียร์สีเหลืองอ่อนที่มีแอลกอฮอล์ 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีส่วนผสมของผักชีและเครื่องเทศ ออกมาจำหน่ายเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา
ซิสเตอร์เกอร์ทรูด กล่าวว่า เบียร์ที่ผลิตออกมานั้นดีต่อสุขภาพ ช่วยในการย่อยอาหาร แม่ชีทุกคนชอบเบียร์ที่ผลิตออกมา โดยพวกท่านจะดื่มเบียร์วันละหนึ่งขวดในวันอาทิตย์
เอ็ดเวิร์ด มาร์ติน หัวหน้าโรงหมักเบียร์และเหลนของ จอห์น มาร์ติน ผู้ก่อตั้ง กล่าวว่าขณะนี้มีการผลิตเบียร์ของแม่ชี 300,000 ขวดต่อปี และจะเพิ่มเป็นประมาณ 3 ล้านขวดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีการส่งออกไปขายที่ประเทศอิตาลีและสเปนแล้ว
แอบบีเบียร์ (Abbey beer) หรือ เบียร์จากสำนักสงฆ์ เป็นเบียร์ที่หาได้ทั่วไปในประเทศเบลเยียม แต่ก่อนหน้านี้มีแต่เพียงพระสงฆ์ หรือพระเพศชายเท่านั้นที่เป็นผู้หมักเบียร์ และหารายได้จากค่าลิขสิทธิ์หากมีบริษัทผลิตเบียร์นำสูตรไปใช้
สำนักชี มาเรเดรท์ แอบบีย์ นั้นอยู่ห่างจาก มาเรซูส์ แอบบีย์ (Maredsous Abbey) ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ชายที่หมักเบียร์ที่บริษัท Duvel นำไปขายเพียงหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น
ซิสเตอร์เกอร์ทรูดย้ำว่าพวกท่านไม่ได้เป็นคู่แข่งของสำนักสงฆ์ โดยบอกว่าทางสำนักสงฆ์นั้นได้รับทราบ และอนุญาติให้พวกแม่ชีหมักเบียร์ขายได้