เทคโนโลยีสารสนเทศ เข้ามามีบทบาทในภาคการดูแลสุขภาพ ช้ากว่าส่วนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เรียกว่า E-Health นั้น กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว และความก้าวหน้าที่ว่านี้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา
E-Health หรือเทคโนโลยีสารสนเทศระบบดิจิตัล อาจสลับซับซ้อนอย่างมาก เช่น ข้อมูลสถิติการแพทย์แห่งชาติ หรืออาจง่ายแสนง่าย เช่นการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือ เตือนว่าอย่าลืมกินยา
วารสาร Health Affairs ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ตีพิมพ์รายงานเรื่อง “E-Health ในประเทศกำลังพัฒนา” โดยมุงไปที่ประเทศต่างๆ ซึ่งกลำงัใช้โทรศัพท์มือถืออย่างแพร่หลาย รายงานบอกว่าในความเป็นจริงนั้น ความก้าวหน้าของ E-Health ตลอดจนการใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือ m-Health อาจกำลังก้าวไกลในประเทศกำลังพัฒนา มากกว่าในประเทศพัฒนาแล้วเสียอีก ตัวอย่างเช่น ประวัติทางการแพทย์ส่วนใหญ่ ของประเทศตะวันตกหลายประเทศ ยังคงถูกเก็บเป็นเอกสาร และหมอส่วนใหญ่ในสหรัฐ ยังคงใช้เครื่องโทรสารแทนที่จะใช้ E-mail
คุณ Susan Dentzer บรรณาธิการของวารสาร Health Affairs ระบุว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้สร้างโอกาสใหม่ๆ ทางการแพทย์ให้แก่ประเทศยากจน ตัวอย่างเช่นประเทศรวันดา ที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือเก็บข้อมูลการจ่ายยาให้แก่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV และว่ารวันดาคือหนึ่งในประเทศกำลังพัฒนา ที่เป็นผู้นำในด้านการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้กับระบบการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ ที่แอฟริกาใต้ มีการส่งข้อความเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อ HIV ผ่านโทรศัพท์มือถือ และที่เปรูมีการส่ง SMS ลักษณะเดียวกัน เพื่อเตือนให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ อย่าลืมทานยาเป็นประจำ โดยบริการในลักษณะนี้ ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดี ในประเทศรายได้ต่ำหลายประเทศ และขณะนี้เริ่มมีการนำมาใช้ในประเทศร่ำรวยบ้างแล้ว
บริการ E-Health อีกแบบหนึ่งที่กำลังถูกนำมาใช้ในประเทศพัฒนาแล้ว คือบริการที่เรียกว่า Text4Baby ซึ่งเป็นบริการสำหรับสตรีมีครรภ์ ที่ต้องการส่งข้อความต่างๆ ให้แก่ลูกน้อย เก็บไว้เป็นฐานข้อมูลดิจิตัล ในช่วยระหว่างตั้งครรภ์จนถึงช่วงขวบปีแรกของลูก
ทางด้านคุณ Hamish Fraser แห่งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐ Partners in Health ระบุว่ามีรายงานหลายชิ้น ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในการรักษาคนไข้ ในสหรัฐมีตัวอย่างที่เห็นว่า การมีระบบจัดการห้องทดลองทางการแพทย์ที่ดี ให้สามารถส่งข้อมูลให้แก่แพทย์ได้โดยตรง จะช่วยให้ข้อมูลที่ได้มีความถูกต้อง ตรงเวลาและใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ควรออกแบบเทคโนโลยีต่างๆ ให้ใช้งานได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่
ในขณะเดียวกัน คุณ William Hersh แห่งมหาวิทยาลัย Oregon เขียนไว้ในวารสาร Health Affairs ว่า ควรมีการฝึกฝนคณะบุคลากรทางการแพทย์ในประเทศกำลังพัฒนา ให้สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์ สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์ Healthaffairs.org