วันที่ 1 ธันวาคม เป็นวัน AIDS โลก แม้ว่านักวิทยาศาสตร์ จะพัฒนายาต่อสู้กับโรคนี้ขึ้นมาหลายชนิดและช่วยบำบัด และยืดอายุคนไข้ได้ แต่ยังมีคนติดเชื้อ และเสียชีวิตเพราะโรคนี้เป็นจำนวนมาก
ขณะนี้ คนติดเชื้อ HIV/AIDS มากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการใช้ยาต้าน AIDS และประมาณกันว่าอาจมีคนที่ควรใช้ยานี้อีกราว 7 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่คาดว่าจะมีคนติดเชื้อใหม่ปีละราว 2 ล้าน 7 แสนคน
นักวิจัยคนสำคัญด้านโรคเอดส กล่าวว่า มีความก้าวหน้าสำคัญบางอย่างในการต่อสู้กับโรคนี้ นายแพทย์ Anthony Fauci ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้ และโรคติดต่อของสหรัฐกล่าวว่า ความก้าวหน้าในงานวิจัยตั้งแตเริ่มแรกในปี 2524 จนถึงปี 2552 นี้ เป็นเรื่องที่ไม่มีปรากฏมาก่อน ซึ่งอาจเป็นเพราะสถานการณ์ใหม่ ที่ทำให้มีโอกาสช่องทางมากขึ้น และมีทรัพยากรสำหรับการวิจัยมากมาย นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี กล่าวว่า ความก้าวหน้าเหล่านั้นเปลี่ยนรูปการณ์สำหรับคนไข้อายุยังน้อยเป็นจำนวนมาก ขณะที่วิธีการบำบัดด้วยยาต้านเอดสช่วยยืดอายุคนไข้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่แท้จริงนั้น ยังไม่มีความแน่นอน ขณะที่เชื้อไวรัส HIV สามารถซ่อนเร้นอยู่ในร่างกายได้ เมื่อนักวิทยาศาสตร์พยายามพัฒนาวัคซีนขึ้นมาโดยพยายามเลียนแบบ ระบบภูมิต้านทานของร่างกาย แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ได้ผล ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จะต้องพยายามต่อไป เพื่อให้ได้วัคซีนที่ทำงานป้องกันการติดเชื้อโดยธรรมชาติได้ การทดลองวัคซีนในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงว่า มีผลจำกัด แต่ก็ให้เงื่อนงำ สำหรับสานต่อการทำงานพัฒนาวัคซีนที่สามารถนำออกมาใช้ได้ทั่วไป
ในตอนนี้ นายแพทย์ Anthony Fauci ผู้เป็นเสียงและเรี่ยวแรงสำคัญในการต่อสู้กับ HIV/AIDS เสนอแนวทางอื่นๆ ในการป้องกันการติดเชื้อ รวมทั้งการใช้ยาฆ่าเชื้อภายนอกสำหรับสตรีใช้ทาก่อนการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา ที่ผู้หญิงจะสามารถควบคุมและป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อได้ด้วยตนเอง ขณะที่ผู้ชายจำนวนมากไม่ชอบใช้ถุงยางอนามัย ขณะนี้ขณะนี้กำลังมีการทดสอบว่า การใช้ยาฆ่าเชื้อทาภายนอก ก่อนการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการติดเชื้อนั้น จะได้ผลหรือไม่
อีกวิธีหนึ่งเรียกว่า "การตรวจและการบำบัดแบบสมัครใจ" ซึ่งจะตรวจสอบกับคนเป็นจำนวนมากๆ และให้การบำบัดทุกคนที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ HIV/AIDS ไม่ว่าจะมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่