รายงานฉบับใหม่ของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันอายุเฉลี่ยของประชากรโลกสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดกว่าที่เคยเป็นมา และในอีกราว 10 ปี ประชากรโลกที่อายุเกิน 65 ปีจะมีจำนวนมากกว่าเด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปีเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษย์
รายงานการสำรวจของสำนักสำมะโนประชากรสหรัฐฉบับล่าสุดระบุว่า ภายในปี 2040 ประชากรโลกที่อายุเกิน 65 ปีจะเพิ่มจาก 7% เป็น 14% คิดเป็นจำนวนจาก 506 ล้านคนเป็น 1,300 ล้านคน โดยประชากรอายุเกิน 65 ปีในประเทศกำลังพัฒนาจะเพิ่มขึ้นถึงจาก 313 ล้านคนในปัจจุบันเป็นมากกว่า 1 พันล้านคนในปี 2040 โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย ซึ่งประชากรอายุเกิน 65 ปีจะเพิ่มขึ้นจาก 166 ล้านคน เป็น 551 ล้านคนในอีก 31 ปีข้างหน้า
ประชากรโลกอายุ 80 ปีหรือมากกว่าคือกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในหลายๆ ประเทศ และคาดว่าจำนวนประชากรในกลุ่มนี้จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% ก่อนปี 2050 ในขณะที่จำนวนประชากรโลกที่อายุมากกว่า 100 ปีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ปัจจุบันมีผู้ที่อายุเกินกว่า 100 ปีประมาณ 340,000 คนทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากจำนวนไม่กี่พันคนเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว ส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกาและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ยุโรปจะยังคงเป็นแถบที่ประชากรมีอายุเฉลี่ยสูงที่สุดต่อไป จนถึงช่วงกลางศตวรรษนี้ ในขณะที่ประเทศแถบทางใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า คือแถบที่มีประชากรมีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุด
บรรดาผู้เชี่ยวชาญให้เหตุผลว่า มี 2 ปัจจัยที่ทำให้อายุเฉลี่ยของประชากรโลกสูงขึ้น คือผู้คนอายุยืนยาวขึ้นเนื่องจากการพัฒนาการรักษาพยาบาล และอัตราการเกิดของประชากรลดลงในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรปหลายประเทศ หนุ่มสาวจำนวนมากที่แต่งงานมีลูกไม่ถึง 2 คนซึ่งเป็นจำนวนที่เหมาะสมในการทดแทนจำนวนประชากร โดยผู้หญิงในแถบเอเชียตะวันออกและยุโรปตะวันตก มีบุตรเฉลี่ย 1.6 คน ในขณะที่คู่แต่งงานในยุโรปตะวันออกมีบุตรเฉลี่ยเพียง 1.4 คน
สำหรับหลายๆ ประเทศโดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรม การมีประชากรสูงอายุจำนวนมากถือเป็นปัญหาท้าทายประการหนึ่ง เนื่องจากประชากรวัยแรงงานจะมีจำนวนลดลง ในขณะที่ผู้เกษียณอายุมีมากขึ้น รายได้จากภาษีของรัฐบาลจะลดลง ส่งผลกระทบด้านลบในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ และอาจเกิดเป็นปัญหาสังคมได้ ปัจจุบันรัฐบาลหลายประเทศ จึงกำลังกระตุ้นให้ประชากรทำงานนานขึ้น และสนับสนุนให้เกษียณอายุตอน 70 ปี ซึ่งจะช่วยให้มีประชากรในวัยแรงงานที่ช่วยจ่ายภาษีมากขึ้น และชะลอการจ่ายเงินบำนาญไว้ได้อีกหลายปี