สำนักข่าวของทางการเกาหลีเหนืออ้างว่า ดาวเทียมที่ส่งโดยจรวดเมื่อวันอาทิตย์ได้ขึ้นสู่วงโคจรรอบโลกแล้ว และส่งสัญญาณเป็นเพลงการปฏิวัติของผู้นำประเทศกลับสู่โลก
แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่ากำลังรอข้อมูลเพื่อยืนยันว่า การส่งดาวเทียมดังกล่าวสำเร็จจริงหรือไม่ โดยจะทราบได้เมื่อดาวเทียมโคจรผ่านสถานีตรวจสอบตามจุดต่างๆ บนพื้นโลก
นาย Joseph Bermudez แห่ง Jane's Defense Group กล่าวว่า อย่างน้อยที่สุดการยิงจรวดครั้งนี้แสดงว่าเกาหลีเหนือประสบความสำเร็จด้านการเตรียมการ การควบคุมภาคพื้นดิน การนำวิถี และเรื่องทางเทคนิคอื่นๆ ส่วนนาย Ivan Oelrich จากสมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ชี้ว่าคงไม่มีใครเชื่อว่าเกาหลีเหนือ สนใจเรื่องดาวเทียมสื่อสารอย่างแท้จริง แต่การยิงจรวดส่งดาวเทียมครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อทดลองขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งสามารถติดหัวรบสำหรับใช้ประโยชน์ด้านการทหาร และว่าเกาหลีเหนือไม่จำเป็นต้องพัฒนาโครงการจรวดขีปนาวุธของตนให้ได้ทันสมัย เหมือนประเทศตะวันตก เพราะเพียงมีจรวดที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ได้ เพียงหนึ่งหรือสองลูก ก็จะเพียงพอแล้วสำหรับการข่มขู่ประเทศเพื่อนบ้านเพื่อเป็นข้อต่อรองทางการเมือง ส่วนนาย Daniel Pinkston นักวิเคราะห์อาวุโสของ International Crisis Group ชี้ว่าการที่ประเทศที่ยากจนอย่างเกาหลีเหนือทุ่มทรัพยากรให้กับเทคโนโลยีจรวดแสดงว่า เกาหลีเหนือมีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวในใจ นั่นคือการติดหัวรบนิวเคลียร์
ถึงแม้นักวิทยาศาสตร์จะชี้ว่าเกาหลีเหนือ ยังมีปัญหาด้านเทคนิคอีกมากมาย สำหรับการติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ และการเล็งเป้าหมายได้แม่นยำก็ตาม แต่เวลาที่ควรจะกังวลเรื่องภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั้น คือปัจจุบัน
รับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมจากคุณจำเริญ ตัณฑ์สมบุญ