ในบ้านเราตลาดขายของที่ใช้แล้ว หรือสินค้ามือสองอย่างตลาดนัดจตุจักรหรือตลาดโรงเกลือเป็นที่นิยมของผู้ชื่นชอบซื้อสินค้ามานานแล้ว
และในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ในปัจจุบัน ตลาดขายของมือสองโดยเฉพาะสินค้ายี่ห้อดังต่างๆ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ที่ฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยต่างๆ ในเอเชีย
ถนนสายหลักต่างๆ ในฮ่องกงมักจะมีร้านขายของหรูหราต่างๆ เช่น ร้านขายอัญมณี เสื้อผ้ายี่ห้อดัง และเครื่องหนังเรียงรายอยู่เต็มไปหมด เป็นเวลาหลายสิบปีมาแล้วที่นักท่องเที่ยว และนักช้อปปิ้งทั่วเอเชียพากันเดินทางมายังฮ่องกง เพื่อหาสินค้าดียี่ห้อดังราคาถูก และที่สำคัญไม่ต้องเสียภาษีด้วย แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบัน ร้านรวงต่างๆ จึงต้องใช้วิธีลดแลกแจกแถมเพื่อจูงใจลูกค้า แต่รายงานข่าวบอกว่าธุรกิจอย่างหนึ่ง ที่กำลังไปได้สวยที่ฮ่องกง ก็คือร้านขายสินค้ามือสองนั่นเอง
ร้านชื่อ Milan Station ใกล้ Times Square ในฮ่องกง นำกระเป๋ายี่ห้อดังต่างๆ มาแขวนจูงใจลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า Gucci Louis Vuitton หรือ Chanel ซึ่งราคาที่ติดไว้ค่อนข้างถูกกว่าราคาขายปลีกทั่วไปมาก แต่หากเดินเข้าไปพิจารณาดีดี จะเห็นว่ากระเป๋าหล่านั้นเป็นของใช้แล้ว คุณ Tony Chan จนท.ฝ่ายการตลาดของร้านแห่งนี้บอกว่า ตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ร้านขายของมือสองของเขาที่มีสาขาถึง 10 แห่งทำยอดขายเพิ่มขึ้นราว 5-7% ซึ่งน่าจะเป็นเพราะลูกค้ายังยึดติดกับยี่ห้อสินค้าแม้รายได้จะลดลง
คุณ Tony Chan บอกว่ากระเป๋า Louis Vuitton และ Gucci ขายดีที่สุด เพราะลูกค้าต้องการจะแสดงให้คนทั่วไปเห็นว่า ใช้ของแพงนั่นเอง คุณ Chan บอกว่าบางวันทางร้านขายกระเป๋าได้ถึง 100 ใบ แต่ละใบราคาไม่ต่ำกว่า 200 ดอลล่าร์ หรือราว 7 พันบาท แม้จะเป็นของใช้แล้วก็ตาม หลักฐานพิสูจน์ความเฟื่องฟูของตลาดสินค้ามือสองในฮ่องกงนี้เห็นได้ไม่ยาก เพราะหากเดินไปสอดส่องดูตามร้านขายสินค้าหรูหรามือหนึ่งทั่วไป จะพบว่าช่วงนี้แทบไม่มีคนเดินชมสินค้าเลย
คุณ Ellen Mcnally ผู้เขียนหนังสือแนะนำร้านต่างๆ ในฮ่องกง บอกว่า แม้ปกติคนฮ่องกง และนักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยนิยมซื้อสินค้ามือสอง แต่ถ้าเป็นของยี่ห้อหรูๆ ที่ชอบ ก็อาจจะเปลี่ยนความคิดได้
คุณ Mcnally บอกว่า ลูกค้ามักจะถูกครอบงำจิตใจด้วยยี่ห้อดังๆ บางคนสามารถจ่ายเงินเป็นพันเป็นหมื่นเหรียญได้ เพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่าใช้ของยี่ห้อแพงๆ คุณ Mcnally ยังบอกด้วยว่าสินค้าหรูหรามือสองนั้น ราคามักจะถูกกว่าของมือหนึ่งราว 30-50% ซึ่งก็คงถูกใจคนชอบสินค้าหรูๆ แต่ราคาถูกกว่า อย่างคุณ Yu Chan ลูกค้าประจำของร้านขายสินค้ามือสองที่บอกว่า หากจ่ายเงินถูกกว่า แต่ได้สินค้าคุณภาพเหมือนหรือใกล้เคียงกับของใหม่ แล้วทำไมจะไม่ซื้อล่ะ
อย่างนี้คงต้องบอกว่า แม้รายได้จะลดลง แต่ขอคงรสนิยมเหมือนเดิมไว้ ไม่เปลี่ยนแปลง