จีนกำลังพยายามปกป้องประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของตนเอง ซึ่งกำลังถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน ขององค์การสหประชาชาติที่นครเจนีวา ในขณะที่องค์ดาไลลามะ ผู้นำทางศาสนาของธิเบตกลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนยุโรป
หลังจากการพิจารณาประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของจีนเป็นวันแรก ในกำหนดการ 3 วัน จีนยังคงยืนยันว่าประชาชนจีนมีเสรีภาพ ทั้งในด้านการแสดงความคิดเห็น และทางศาสนา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เจียง หยู กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงปักกิ่งในวันอังคารว่า รัฐบาลจีนมีพันธะในการปกป้อง และพัฒนาสิทธิมนุษยชน และว่ารัฐบาล ยังมุ่งเน้นในเรื่องการยกระดับมาตรฐานการครองชีพของชาวจีนด้วย
คุณเจียงบอกว่า ปัจจุบันจีนมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนทางเศรษฐกิจ และได้ปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายใหม่ ให้เปิดรับวัฒนธรรมที่แตกต่างหลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่ายังคงมีความท้าทาย และปัญหามากมายที่จีนต้องแก้ไข โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังบอกด้วยว่า จีนต้องการเจรจาอย่างจริงใจ และกว้างขวางกับประเทศอื่นๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน
ในขณะเดียวกัน คุณเจียง หยู กล่าวถึงเรื่องธิเบตและองค์ดาไลลามะ ผู้นำทางศาสนาของธิเบต ที่เพิ่งได้รับฐานะพลเมืองกิตติมศักดิ์จากกรุงโรม ประเทศอิตาลี ว่าธิเบตคือส่วนหนึ่งของประเทศจีน และการที่ประเทศต่างแสดงการยอมรับองค์ดาไลลามะ ถือเป็นการสบประมาทอำนาจอธิปไตยของจีน คุณเจียงระบุว่า ประเด็นเรื่ององค์ดาไลลามะนั้นแท้จริงแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนหรือศาสนาแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องอธิปไตยแห่งชาติ และการแบ่งแยกดินแดนมากกว่า
ทางด้านองค์ดาไลลามะ ยืนยันต่อสาธารณชนว่า ต้องการให้ธิเบตมีอิสระในการปกครองตนเอง ไม่ใช่การประกาศอิสรภาพจากจีน ผู้นำทางศาสนาของธิเบตกล่าวว่ารัฐบาลจีนพยายามลบล้างวัฒนธรรมของธิเบต โดยเฉพาะการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่กรุงลาสาเมื่อปีที่แล้ว ที่ท่านเปรียบว่าเป็นเสมือนการประหารธิเบต
องค์ดาไลลามะกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนที่จิตใจคับแคบมองว่า การมีอยู่ของธิเบตและจิตวิญญาณของธิเบตนั้น เป็นอันตรายที่จะทำให้เกิดการแบ่งแยก ดังนั้นรัฐบาลจีน จึงพยายามลบล้างจิตวิญญาณและการมีอยู่ของธิเบต
องค์ดาไลลามะ ลี้ภัยจากธิเบตสู่ประเทศอินเดียเมื่อ 50 ปีที่แล้ว โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคมปีนี้ รัฐบาลจีนจะจัดพิธีรำลีกถึงเหตุการณ์เมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งจีนเรียกว่า การปลดปล่อยทาสชาวธิเบตนับล้านคน