ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในวันจันทร์เพียงวันเดียว


ความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ทั่วโลกในช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นในวันจันทร์ ที่ Wall Street ดัชนีเฉลี่ย Dow Jones พุ่งขึ้นกว่า 900 จุด หรือมากกว่า 16% ซึ่งนับว่าสูงเป็นประวัติการณ์สำหรับการเพิ่มขึ้นในวันเดียว

Sam Stovall เจ้าหน้าที่ฝ่ายการวางแผนการลงทุนของ Standard and Poor’s บอกว่า ในขณะที่ผู้คนรู้สึกหวั่นไหวไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่ดัชนีตลาดหุ้นลดลง เป็นไปได้ว่า ราคาหุ้นตกลงจนถึงจุดต่ำสุดแล้ว และเวลานี้เป็นเวลาที่ควรซื้อหุ้นกันได้แล้ว

นักวิเคราะห์เชื่อว่า มาตรการของ 15 ชาติภาคีสหภาพยุโรป หรือ EU ในการช่วยเหลือธนาคารที่มีหนี้เสียเป็นจำนวนมาก การค้ำประกันเงินกู้ และมาตรการอื่นๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการปล่อยเงินกู้ ดูจะได้ผล มีการประกาศแผนดังกล่าวออกมา หลังการประชุมสุดยอดของ 15 ชาติที่ว่านี้ที่กรุงปารีส เมื่อวันอาทิตย์

คาดกันว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับแผนกู้วิกฤติการณ์การเงินของ EU จะตกราวๆ หนึ่งถึงสองล้านล้านดอลล่าร์ และได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF และสถาบันการเงินอื่นๆ

สหรัฐประกาศแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่ากว่าเจ็ดแสนล้านดอลล่าร์ออกมาเมื่อต้นเดือน และผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Neel Kashkari กล่าวว่า การดำเนินการตามแผนกำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว

ในวันจันทร์เดียวกันนี้ รัฐบาลอังกฤษประกาศการเข้าไปถือหุ้นธนาคารใหญ่สามแห่งของประเทศ ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับตลาดการเงิน

รัฐบาลอังกฤษจะเพิ่มต้นทุนให้กับธนาคาร Royal Bank of Scotland หรือ RBS สามหมื่นสี่พันล้านดอลล่าร์ และอีกเกือบสามหมื่นล้านให้กับ LLloyds-TSB และ HBOS ซึ่งกำลังกลับไปเจรจาเงื่อนไขการรวมตัวกันใหม่

การอัดฉีดเงินจำนวนนี้ หมายความว่า รัฐบาลอังกฤษเข้าไปถือหุ้นใน RBS ราวๆ 60% และ 40% ในอีกสองธนาคาร พร้อมกันนี้ ผู้บริหารของ RBS และ HBOS จะต้องพ้นจากตำแหน่งไปด้วย

ตลาดหุ้นรายใหญ่อื่นๆ ในยุโรปเพิ่มขึ้นระหว่าง 8-12% เมื่อปิดทำการในตอนเย็นวันจันทร์ ยกเว้นตลาดหุ้นในรัสเซียที่ลดลงระหว่าง 4 ถึง 6% แม้รัฐบาลจะประกาศแผนกู้วิกฤติการเงินมูลค่าหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านดอลล่าร์ออกมาแล้วก็ตาม

ไปดูที่ตะวันออกกลางกันบ้าง ตลาดหุ้นรายใหญ่ที่ Dubai และ Riyadh เพิ่มขึ้น 8 ถึง 10% และ 3 ถึง 5% สำหรับตลาดหุ้นที่ Egypt, Oman, และ Abu Dhabi

แต่นายกสมาคมนักอุตสาหกรรมของเลบานอน นาย Fady Abboud ให้ความเห็นว่า วิกฤติการเงินครั้งนี้ ส่งผลกระทบไม่ทั่วถึงกัน

นักอุตสาหกรรมชาวเลบานอนผู้นี้เชื่อว่า ประเทศใดก็ตาม ที่ธนาคารมีความเกี่ยวข้องกับตลาดในอเมริกา ก็จะมีปัญหามากกว่าประเทศอย่างเลบานอน หรือ ซีเรีย ซึ่งไม่มีการติดต่อทำธุรกรรมใดๆกับโลกตะวันตก ในขณะที่บรรดารัฐอาหรับในอ่าวเปอร์เชีย ซึ่งติดต่อกับตลาดในตะวันตก ประสบปัญหามากกว่าอย่างแน่นอน

สำหรับตลาดในเอเชียเมื่อวันจันทร์ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้นมากกว่า 10% ส่วน S and P/ASX ของออสเตรเลีย ขึ้นไป 4% และ KOPSI ของเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้นเกือบ 4% Tony Pearson นักเศรษฐศาสตร์ของ ANZ Banking Group ที่นครเมลเบิร์น เชื่อว่า เศรษฐกิจเอเชียจะสามารถฝ่าฟันการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้

นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ ให้ความเห็นว่า ตลาดในเอเชียได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินออกจากเอเชียไปยังสหรัฐ และอัตราการโตของเอเชียจะชะลอตัวลงอย่างแน่นอน แต่เศรษฐกิจของประเทศใหญ่ๆในเอเชีย จะสามารถพึ่งพาอาศัยความต้องการสินค้าและบริการภายในประเทศของตนเป็นการชดเชยได้

นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเชื่อว่า วิธีที่จะหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้ คือการมีเงินตราต่างประเทศสำรองไว้เป็นจำนวนมาก มีหนี้ต่างประเทศไม่มากนัก และกวดขันกฎข้อบังคับสำหรับการธนาคารในประเทศ


XS
SM
MD
LG