ผู้ที่สนับสนุนให้แก้ไขเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศระดับแนวหน้าคนหนึ่งในสหรัฐ เปิดเผยแผนการที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโลกลงอย่างสุดขีดเลยทีเดียว ในระยะ 12 ปีข้างหน้า เขาอ้างว่า แผนการข้างต้นจำเป็น และนำไปปฏิบัติได้
ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีทั้งสองคน คือ ส.ว. บารัก โอบามา แห่งพรรคเดโมแครต และส.ว. จอห์น แม็คเคน แห่งพรรครีพับลิกัน ให้คำมั่นว่า จะให้สหรัฐลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ลง 60-80 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีพุทธศักราช 2593 ส่วนสหภาพยุโรปกล่าวว่า กำลังวางแผนจะลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง ไม่ต่ำกว่า 20เปอร์เซ็นต์ ภายในปีพุทธศักราช 2563 แต่ตามทัศนะของคุณ เลสเตอร์ บราวน์ ประธานของสถาบันนโยบายเกี่ยวกับโลกในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า ความคิดริเริ่ม หรือข้อเสนอเหล่านั้น ยังไม่กว้างขวาง พอเพียง เขากล่าวว่า โลกจะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่ต่ำกว่า 80เปอร์เซ็นต์ ให้ได้ ภายในปีพุทธศักราช 2563 เป็นอย่างช้า
คุณเลสเตอร์ บราวน์ เสนอแผนยุทธศาสตร์ขั้นพื้นฐานสามประการ เพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา กล่าวคือ แผนยุทธศาสตร์ที่หนึ่ง จะปรับปรุงประสิทธิภาพของพลังงานทั่วเศรษฐกิจโลก แผนยุทธศาสตร์ที่สองนั้น ให้เปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล มาใช้แหล่งพลังงานที่ใช้ไม่มีวันหมด และแผนยุทธศาสตร์ที่สาม คือ ห้ามตัดไม้ทำลายป่า และริเริ่มให้มีการปลูกต้นไม้กันนับพันๆ ล้านต้น
ในการแถลงข่าวทางโทรทัศน์วงจรปิดต่อสื่อมวลชนด้านข่าว ทั้งของสหรัฐและของนานาประเทศ คุณเลสเตอร์ บราวน์ กล่าวว่า การนำหลอดไฟฟ้าเรืองแสงมาใช้แทนที่หลอดไฟฟ้าที่มีเส้นลวดภายใน จะช่วยให้โลกประหยัดไฟฟ้าได้12 เปอร์เซ็นต์ เรื่องดังกล่าว จะช่วยให้สหรัฐและประเทศอื่นๆ สามารถปิดโรงไฟฟ้าที่อาศัยถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงได้นับร้อยๆ แห่ง ซึ่งจะยังผลให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
เขายังแนะนำให้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และแหล่งความร้อนตามพื้นธรณีอย่างขนานใหญ่ เพื่อเพิ่มปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไม่ทำให้เกิดมลพิษ ปริมาณไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนี้ สามารถนำไปใช้ในการอัดแบตเตอรี่ของรถยนต์พันทางรุ่นต่อไป ซึ่งบริษัทสร้างรถยนต์ในสหรัฐและที่ญี่ปุ่น กำลังพัฒนาขึ้นมา การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และการลงทุนกันใหม่ในด้านการขนส่งมวลชน จะส่งผลกระทบในทางเสริมสร้าง ต่อเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คุณเลสเตอร์ บราวน์ กล่าวว่าที่ถูกแล้วนักการเมืองควรถามว่า จำเป็นต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเท่าไหร่ ถึงจะหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความวิบัติต่อระบบนิเวศน์วิทยาในอนาคต ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่ใช้กันอย่างเฉียบขาดนั้น มักจะแย้งอยู่เสมอว่า การนำแผนการไปปฏิบัติ ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง ซึ่งจะไปเหนี่ยวรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจ คุณเลสเตอร์ บราวน์ กล่าวว่า การไม่ทำอะไรเลยนั้น จะก่อความเสียหายมากกว่าในระยะยาว และว่ารัฐบาลควรลดภาษีเงินได้ ในขณะที่ขึ้นภาษีเกี่ยวกับการใช้พลังงานและมลพิษ