รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่นและของจีน พบหารือกันที่กรุงโตเกียวเมื่อวันอา ทิตย์ เพื่อหารือกันเรื่องการพยายามหาทางป้องกันภาคพื้นเอเชียให้พ้นจากผลกระทบที่ อาจเกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ทำท่าว่ากำลังจะซบเซาถดถอยของสหรัฐ
รัฐมนตรีทั้งสอง กล่าวว่า จะดำเนินงานโดยเคารพต่อข้อตกลงความร่วมมือส่วนภาคพื้น เอเชีย “Chiang Mai Initiatives” ที่ยอมให้รัฐบางของประเทศในเอเชียออกเงินกู้เป็นเงิน ตราต่างประเทศให้กันได้ในกรณีที่เกิดความฉุกเฉินด้านการเงิน
นายฟูกุชิโร นูคากะ รมต. คลัง ญี่ปุน กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญสำหรับ ญี่ปุ่น จีน และอินเดีย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่ในเอเชีย ที่จะเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความเปลี่ยนแปลงขึ้นลงของตลาดในเอเชียเข้มข้นขึ้นในระยะสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหลัง จากมีความวิตกกันมากขึ้นว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเริ่มเข้าขั้นถดถอยซบเซา
ขณะเดียวกัน นายมัตสุชิโร ฤูกาโอะ ประธานศูนย์วิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่นกล่าวว่าประเทศ อย่างจีน และญี่ปุ่น แล้วก็ไต้หวัน ใม่ต้องวิตกจนเกินไป เพราะถ้าหากสินค้าออกที่ตนส่งไป ยังสหรัฐต้องลดน้อยลง ประเทศเหล่านั้นก็ยังสามารถค้ำจุนตัวเองได้ในทางการเงิน แต่ บางประเทศในเอเชียอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการส่งออกของตนไปยังสหรัฐลดลง หากเศรษฐ กิจของสหรัฐเฉื่อยตกสู่ภาวะถดถอยและสั่งเข้าน้อยลง ซึ่งอาจจะทำให้ประเทศในเอเชีย บางประเทศขาดเงินตราต่างประเทศสำรอง อย่างฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย อาจประ สพความยุ่งยากลำบาก หากเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะซบเซาเป็นเวลานาน
และขณะที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐอ่อนลงเรื่อยหวุดหวิดจะต่ำกว่า 100 เยนญี่ปุ่น เจ้าหน้า ที่ประเทศต่างๆ ต่างจับตาดูว่าจะลดต่ำลงไปแค่ไหน
นายฟูกาโอะกล่าวว่า หากเงินญี่ปุ่น 90 เยนแลกได้ 1 ดอลล่าร์สหรัฐเมื่อใด กระทรวงการ คลังญี่ปุ่นก็อาจจะต้องเข้าแทรกแซงดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อหยุดยั้งการที่ค่าเงิน เยนจะสูงขึ้นมากเกินไป แต่ในระดับที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่ 1 ดอลลาร์ ยังแลกได้ 100 เยน รัฐบาลญี่ปุ่นก็เห็นจะไม่เข้าไปแทรกแซง
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ประเทศอื่นๆ ในเอเชียดูท่าว่าจะพยายามเสริมนโยบายการเงินของตน ให้เข้มแข็งขึ้นในการรับมือกับผลที่จะติดตามมาจากภาวะเศรฐกิจถดถอยของสหรัฐและ การที่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในจีน ระบบธนาคารกลางของสหรัฐ ประกาศมาตรการฉุกเฉินไป แล้วเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และอาจมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก