วันนี้มีเรื่องราวของเด็กสาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่ชื่อว่า แนนซี่ หยี ฟาน ซึ่งเป็นผู้ทีีมีใจรักในงานศิล ปะและงานเขียน และรักนกเป็นชีวิตจิตใจ แนนซี่ไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษ จนกระทั่งครอบครัวของ เธอย้ายจากประเทศจีนเข้ามาอยู่ในอเมริกาตอนที่เธออายุ 7 ขวบ
หลังจากนั้นอีกไม่กี่ปีแนนซี่ก็ได้เขียนหนังสือนิยายเล่มแรกเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า “Swordbird” ซึ่งต่อ มากลายเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุด
ครอบครัวของแนนซี่ หยี ฟาน ย้ายมาอยู่ในสหรัฐ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายโจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยา ยนได้ไม่กี่เดือน หลังจากนั้นไม่นานเธอฝันถึงนกยักษ์สีขาว ซึ่งพยายามสร้างสันติภาพในหมู่นกที่สู้รบกันในป่าแห่งหนึ่ง
แนนซี่เล่าว่าเมื่อตื่นขึ้นมา เธอก็อยากจะเขียนเรื่องราวจากความฝันนั้น เพราะต้องการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของสันติภาพและเสรีภาพ และว่าเธอใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการเขียนนิยายเรื่อง “Swordbird”
นักเขียนรุ่นจิ๋วคนนี้บอกว่า หลังจากที่เขียนเรื่อง “Swordbird” จบลง เธอก็จัดแจงส่งอีเมลต้นฉบับไปยังผู้ที่ทำงานในสำนักพิมพ์ต่างๆ ที่เธอหาพบทางอินเตอร์เนต ตอนนั้นเธอแค่คาดหวังว่าจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีพัฒนาทักษะในด้านการเขียน แต่นิยายของเธอกลับได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์
แนนซี่บอกว่าเธอโชคดี ที่หนึ่งในผู้ที่ได้รับต้นฉบับของเธอ คือคุณเจน ฟรีดแมน ประธานกรรมการบริหารของสำนักพิมพ์ฮาร์เปอร์ คอลลินส์ ในสหรัฐ
คุณเจน ฟรีดแมนบอกว่า ตามปกติแล้วทางสำนักพิมพ์จะไม่รับต้นฉบับที่ไม่มีตัวแทนเป็นผู้จัดส่งมา แต่หลังจากที่ได้ลองอ่านต้นฉบับของแนนซี่แล้ว ก็ยอมรับว่าเป็นงานเขียนที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทางสำนักพิมพ์จึงลองให้โอกาสแนนซี่ดูซักครั้ง
แนนซี่ หยี ฟาน มีอายุเพียง 12 ปีเมื่อนิยายเรื่อง “Swordbird” ของเธอได้รับการตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว ภายในไม่กี่สัปดาห์ “Swordbird” ติดอันดับในรายชื่อวรรณกรรมเยาวชนที่ขายดีที่สุด ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทมส์ “Swordbird” เป็นนวนิยายแฟนตาซีเกี่ยวกับสงครามของเหล่านก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามิตรภาพ และความกล้าหาญสามารถพิชิตทรราชย์ได้
“Swordbird” เป็นเรื่องราวของนกคาร์ดินัล และนกบลูเจในป่าสโตนรัน ซึ่งถูกเจ้าเหยี่ยวปิศาจที่ ชื่อว่า เทอแนท ใช้กลอุบายหลอกลวง เมื่อนกทั้งสองเผ่าพันธุ์รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าเหยี่ยวปิศาจแล้ว จึงร่วมมือกันจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มี “Swordbird” ผู้เป็นฮีโร่ของหมู่นกเกิดขึ้นมา
และเมื่อเร็วๆ นี้นวนิยายเล่มที่สองของแนนซี่ ที่ใช้ชื่อว่า “Sword Quest” ได้รับการตีพิมพ์แล้ว และเธอยังแปลนิยายเรื่องแรกเป็นภาษาจีน โดยมีแรงบันดาลใจจากมรดกทางวัฒนธรรมของเธอเอง
แนนซี่ หยี ฟาน นักเขียนรุ่นกระเตาะผู้นี้บอกว่า การเป็นนักเขียนตั้งแต่อายุยังน้อย มีผลกระทบต่อชีวิตของเธอหลายอย่าง เช่นทำให้คิดอะไรเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น และยังช่วยในเรื่องของจินตนา การ และการควบคุมตัวเอง เธอบอกด้วยว่างานเขียนทำให้เธอได้ค้นพบองค์ประกอบ และความถูกต้องแม่นยำในการใช้ถ้อยคำ และช่วยให้เขียนเรียงความที่โรงเรียนได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
แนนซี่บอกว่าเธอเขียนนิยายเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เพื่อสร้างความบันเทิงให้ผู้อ่าน และที่สำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น คือเพื่อถ่ายทอดหลักปรัชญาชีวิตของเธอให้แก่ผู้อ่าน
แนนซี่เป็นนักเขียนที่อายุน้อยที่สุดของสำนักพิมพ์ฮาเปอร์ คอลลินส์ เธอหวังที่จะได้เขียนหนังสือต่อไป และจะใช้ปีกของเธอเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง แล้วแต่ความฝันจะนำพา