โอกาสในการติดเชื้อจากแม่ถึงทารก ด้วยการเคี้ยวอาหารป้อนให้ลูก

การที่แม่หรือผู้เลี้ยงเด็กอ่อนเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพื่อป้อนให้กับเด็กทารกที่ฟังยังไม่ขึ้นนั้น อาจจะทำให้เด็กเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV จากแม่สู่ลูกได้ ถ้าแม่มีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกาย

นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิจัยสหรัฐออกมายืนยันว่าการที่แม่หรือคนเลี้ยงเด็กเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ก่อนที่จะป้อนให้กับเด็กทารกนั้นอาจจะเป็นการถ่ายทอดเชื้อ HIV ให้กับเด็กได้

ในการประชุมที่เมืองบอสตันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักวิจัยรายงานว่าในสหรัฐมีการติดเชื้อในกรณีแบบนี้มาแล้ว 3 ครั้งในระหว่างปี 1993 ถึง 2004 ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดเป็นการติดเชื้อจากเลือดไม่ใช่น้ำลาย เนื่องจากพบว่าแม่ผู้ติดเชื้อสองในสามรายมีอาการเลือดออกตามไรฟันหรือเป็นแผลในปาก แต่ยังคงต้องมีการศึกษาเรื่องนี้กันต่อไป

การติดเชื้อ HIV จากการเคี้ยวอาหารให้ลูกนี้ อาจเป็นปัญหาที่มีอยู่ในประเทศกำลังพัฒนาที่มีการรักษาสุขภาพปากและฟันไม่ดีเท่าที่ควร และยังไม่มีอาหารสำหรับเด็กอ่อนแพร่หลายนัก

ส่วนในสหรัฐการที่แม่จะเคี้ยวอาหารให้ลูกก่อนป้อนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยพบนัก แต่กรณีแรกที่พบก็คือที่ไมอามี่ ในปี 1993 เด้กชายผิวดำอายุ 15 เดือนติดเชื้อจากคุณย่าที่เคี้ยวอาหารให้หลานตั้งแต่อายุ 9-14 เดือน ส่วนอีกรายอยู่ที่ไมอามี่เช่นเดียวกัน ในปี 1993 เด็กชายเชื้อสายอเมริกาใต้วัย 3 ปีก็ติดเชื้อ จากแม่ผู้ติดเชื้อที่เคี้ยวอาหารให้ลูก กรณีสุดท้ายพบในปี 2004 ที่เด็กหญิงอายุ 9 เดือน แม่ผู้ติดเชื้อเคี้ยวอาหารให้ลูกตั้งแต่ 4 เดือนเช่นกัน

เด็กทั้งสามคนนี้ติเชื้อเมื่อฟันเริ่มขึ้นและมีอาการเหงือกบวม ซึ่งน่าจะมาจากการที่ทั้งผู้ติดเชื้อและเด้กมีแผลในปากจึงทำให้เชื้อ HIV เข้าสู่แผลได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตามนักวิจัยย้ำว่าสำหรับประเทศกำลังพัฒนาที่ยังขาดอาหารสำหรับเด็กอ่อน หรือขาดเครื่อง มือบดอาหารให้กับเด็ก การรณรงค์ให้หยุดการเคี้ยวอาหารเพื่อป้อนลูกจากการติดเชื้อสามกรณีในระยะเวลา 11 ปีซึ่งยีงนับว่าน้อยมากนั้นเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาให้ดีก่อน เพราะเด็กอาจจะประสบกับปัญหาขาดโภชนาการที่ดีได้ในที่สุด