พระสงฆ์มากกว่าหนึ่งร้อยรูปเดินขบวนไปตามถนนในเมือง โพคกคู (Pokukku) ในพม่าเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ หลังการปราบปรามการเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างนองเลือดในเดือนที่แล้ว
การเดินขบวนมีขึ้นหลังจากที่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนกล่าวว่า รัฐบาลทหารของพม่ายังคงเกณฑ์เด็กให้ไปเป็นทหารอยู่ต่อไป
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่าการเดินขบวนที่เมือง โพคกคู ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของย่างกุ้งดำเนินไปอย่างสงบ และพระสงฆ์มิได้มีถ้อยแถลงเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด แต่สวดมนต์เป็นเวลาหลายนาที และเดินทางกลับวัดหลังจากนั้น
อย่างไรก็ตาม นับเป็นครั้งแรกที่พระสงฆ์ปรากฏตัวให้เห็นหลังการปราบปรามในเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ในระหว่างการปราบปรามนั้น มีการจับกุมพระสงฆ์หลายร้อยรูป มีจำนวนมากที่ถูกทุบตี และพระบางรูปถูกสังหาร
การประท้วงครั้งนั้น เริ่มต้นในเดือนกันยายนด้วยการประท้วงการขึ้นราคาน้ำมัน ซึ่งลุกลามไปทั่วประเทศ และกลับกลายมาเป็นการเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย โดยมีพระสงฆ์เป็นแนวหน้า
หลังการปราบปราม มีแรงกดดันจากประชาคมนานาชาติเรียกร้องให้รัฐบาลทหารของพม่าเลิกการปราบปรามกดขี่ประชาชน และดำเนินการปฏิรูปทางการเมืองในประเทศ
และเมื่อวันอังคาร องค์กร Human Rights Watch ที่นครนิวยอร์ค เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงขององค์การสหประชาชาติมีมาตรการลงโทษรัฐบาลพม่าที่เกณฑ์เด็กไปเป็นทหาร
Jo Becker เจ้าหน้าที่ของ Human Rights Watch กล่าวว่า เด็กที่ถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นทหารนั้น อายุเพียงแค่ 10 ขวบก็มี
เจ้าหน้าที่ขององค์การ Human Rights Watch ผู้นี้กล่าวว่า จากการประพฤติปฏิบัติของรัฐบาลทหารพม่าที่แล้วๆมา เห็นได้ชัดเจนว่าควรจะมีมาตรการลงโทษในเรื่องนี้
รายงานขององค์การพิทักษ์สิทธิมนุษยชนแห่งนี้กล่าวไว้ด้วยว่า รัฐบาลทหารของพม่ากำลังสูญเสียความนิยมจากประชาชน โดยเห็นได้จากการที่มีทหารหนีทัพมากขึ้น ซึ่งสืบเนื่องมาจากเงินเดือนต่ำ และทำให้เกิดการเกณฑ์เด็กไปเป็นทหารแทนที่ เด็กที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารนั้น มักจะถูกทุบตี และถูกส่งตัวไปสู้รบกับพวกกบฏที่เป็นชนกลุ่มน้อย
คาดกันว่า ทูตพิเศษของสหประชาชาติ นาย Ibrahim Gambari จะเดินทางกลับไปพม่าอีกครั้งหนึ่ง อย่างเร็วที่สุดในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เพื่อพยายามโน้มน้าวชักจูงให้รัฐบาลทหารของพม่าหันไปประนีประนอมกับฝ่ายค้านที่เรียกร้องประชาธิปไตย
ในเดือนที่แล้ว ทูตของสหประชาชาติผู้นี้เดินทางเยือนหลายประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านของพม่า ซึ่งรวมทั้งจีนและอินเดีย เร่งเร้าให้ประเทศเหล่านี้สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในพม่า
