ตอนที่รัฐบาลทหารของไทยเข้าบริหารประเทศในช่วงแรก ได้กล่าวไว้ว่า จะหาทางเจรจา กับกลุ่มติดอาวุธ เพื่อหาทางออกแบบสันติ แต่เวลาผ่านไปร่วมสิบเดือนแล้ว ยังไม่สามารถระบุว่า ใครหรือคนกลุ่มไหนอยู่ เบื้องหลังความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ
ในห้วงสองสามเดือนที่ผ่านมาสถานการณ์ความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยทวี ความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ความหวังว่า จะมีการเจรจากันระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มติดอาวุธยัง ดูเลือนลาง
คุณ ราจา ซาฟารูล ฮัก ประธาน World Muslim Congress ซึ่งเป็นองค์กรมุสลิมนานาชาติที่ทำงาน ด้านการติดตามปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคนมุสลิม ในประเทศต่างๆทั่วโลก กล่าวว่าสถานการณ์ในภาค ใต้ของไทย สร้างความกังวลต่อบรรดาองค์กรมุสลิม องค์การอิสลาม หรือโอไอซี ตลอดจนกลุ่มชาติมุสลิม และชุมชนชาวมุสลิม ทั่วโลกมาตลอดเพราะการแก้ปัญหาไม่คืบหน้า และเท่าที่ได้ติดตามจากรายงานจาก หลายๆองค์กร นานาชาติ เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย และสถาน การณ์ที่เลวร้ายลงไปกว่าเดิม
ประธานองค์กร World Muslim Congress ซึ่งเป็นชาวปากีสถานกล่าวต่อว่า ผลของรายงานต่างๆเรื่อง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้เน้นย้ำถึงคำกล่าวหาต่อรัฐบาลไทยที่ว่า นอกจากจะยังไม่ได้แก้ ปัญหาให้ลุ ล่วงแล้ว แต่ยังมีใช้กำลัง เขาบอกว่า รัฐบาลไทยไม่พยายามเสาะหาให้รู้ชัดว่าใครหรือกลุ่มคนกลุ่มใดที่ รัฐบาลควรจะเจรจาด้วย
ประธานองค์กร World Muslim Congress บอกอีกว่า รัฐบาลไทยไม่ได้ให้ความสำคัญ ในระดับต้นๆ กับการแก้ปัญหาภาคใต้ แต่พยายามปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนกับช้างตาย ทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด ยังไงก็ปิดไม่มิด โดยเฉพาะนี่เป็นปัญหาความขัดแย้งใหญ่อันหนึ่งในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
คุณซาฟารูล ฮัก จะเข้าร่วมประชุมไอไอซีทุกๆปี และยังเข้าร่วมการประชุมองค์กรมุสลิมอื่นๆอีกหลายเวที เพื่อรายงานปัญหาของคนมุสลิมต่อที่ประชุม เขาบอกว่า รัฐบาลไทยเองมักจะส่งตัวแทนไปร่วมประชุมเวที ชาติมุสลิมเป็นประจำ และจะร้องขอความช่วยเหลือจากชาติมุสลิมตลอด แต่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้นเพราะ ไม่ได้ทำเป็น รายงานเสนอขอว่าจะให้ช่วยอะไรบ้าง เป็นการเจาะจง เขาบอกว่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซาอุดิอารเบีย กับ ลิเบีย พร้อมจะช่วยเหลือไทย ในการแก้ปัญหามาตลอด แต่ไม่ได้ตั้งเป็นคณะทำงานประ จำ เพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ แต่เป็นเพียง การถกกันเป็นพักๆ แล้วก็หายไปไม่มีความคืบหน้าอะไรขึ้นมา
คุณซาฟารูล ฮัก บอกว่า เมื่อปีกลายเขาได้รับฟังคำร้องเรียนโดยตรงจากสมาชิกกลุ่มมุสลิมบางกลุ่ม จากสามจังหวัด ชายแดนภาคใต้ของไทย เขาบอกว่า กลุ่มคนมุสลิมจากภาคใต้ของไทยเหล่านั้นได้ติดต่อ ไปที่หน่วยงานหลายแห่ง และรัฐบาลหลายชาติ รวมทั้งติดต่อไปที่องค์กรของเขาด้วย โดยพวกเขาบอก แค่ว่า เป็นคนมุสลิมจากกลุ่ม บางกลุ่มที่พยายามปกป้องสิทธิของเขา แต่ไม่ยอมพูดอะไรมากไปกว่านั้น เพราะพวกเขากลัวว่าจะมี ปฏิกริยาโต้กลับจากรัฐบาลไทย และว่าดูเหมือน การแก้ปัญหาภาคใต้ของไทย จะไม่เกิด ถ้าสองฝ่ายยังไม่เปิดตัวเข้าหากัน
ประธาน World Muslim Congress เสนอว่า องค์กรของเขาสามารถช่วยได้แน่นอน เพราะสามารถพูดคุย กับทั้งสองฝ่ายได้ และสามารถ เสาะหาสถานที่ที่เหมาะสม ให้สองฝ่ายมาเจอกันเพื่อเจรจาหาทางออก อย่างไรก็ดีเขาบอกว่า องค์กรของ เขาไม่ได้ไปเยี่ยมดูพื้นที่ในชายแดนภาคใต้มาหลายปีแล้ว และยังไม่ ได้รับเชิญจากรัฐบาลไทยให้เข้าไปช่วย อย่างเป็นทางการ ในการหาทางปรองดองกัน เขาบอกว่า ตราบใด ที่รัฐบาลยังไม่ร่วมมือด้วย องค์กรของเขาก็ ไม่สามารถช่วยอะไรได้