นายราเชน รา ปาชาลรี ประธานของคณะกรรมการระหว่างรัฐเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ แห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจะกระทบกระเทือนในด้านสุขภาพ และการเกษตรเป็นส่วนใหญ่ และจะทำให้คนยากคนจนเดือดร้อนมากที่สุด
นายราเชน รา ปาชาลรีกล่าวด้วยว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นตามอาณาเขตต่างๆ ในโลก ทำให้ผู้คนเจ็บป่วย และคร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก เขากล่าวต่อไปว่าสถานการณ์เลวร้ายมากเป็นพิเศษ ในประเทศยากจนที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานหรือเงินทองที่จะคุ้มครองประชาชนให้พ้นจากความร้อนที่รุนแรงสุดขีด
นายราเชน รา ปาชาลรีกล่าวถึงผลกระทบที่ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศมีต่อการเกษตรว่า พลโลกจำนวนสองในสามอยู่ตามเขตชนบทและส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา และว่าพลโลกจำนวนมากพึ่งการเกษตรที่อาศัยน้ำฝนหล่อเลี้ยง นายราเชน รา ปาชาลรีกล่าวต่อด้วยว่า ความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศจะทำให้ปริมาณการรวมตัวของไอน้ำในอากาศสูงขึ้นในแถบอบอุ่น และเรื่องนั้นจะมีปริมาณลดลงในย่านที่อยู่ในเขตร้อน และที่อยู่ใกล้เขตร้อน เขากล่าวว่าการที่การรวมตัวของไอน้ำในอากาศมีปริมาณลดลง จะเป็นผลเสียต่อผู้ที่ต้องอาศัยการเกษตรในการทำมาหาเลี้ยงชีพ
เขากล่าวว่าเมื่อมองในระดับโลก การที่ผลิตผลภาคเกษตรลดลงตามประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือประเทศที่มีพลเมืองหนาแน่นที่สุดในโลกนั้น พบว่าปริมาณอาหารในสต็อคจะลดลง ซึ่งตามความเป็นจริงนั้นเรื่องดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นแล้ว และว่าผลที่จะเกิดตามมาจากเรื่องนั้นก็คือ ราคาของอาหารสูงขึ้น ซึ่งจะกระทบกระเทือนผู้ที่มีฐานะยากจนที่สุดในหมู่คนยากคนจนอย่างร้ายแรง
นายราเชน รา ปาชาลรีกล่าวว่า อัฟริกาล่อแหลมต่อการที่ปริมาณน้ำฝนจะลดลงมากเป็นพิเศษ และว่าหลายภูมิภาคทางอัฟริกา ประสบความเดือดร้อนจากภาวะน้ำขาดแคลนอย่างใหญ่นั้นอยู่แล้ว เขากล่าวต่อไปว่าจะเกิดปัญหาอดอยากหิวโหย และการขาดแคลนโภชนาการ ทั้งนี้เพราะผลผลิตภาคเกษตรกรรมจะลดลงไปเรื่อยๆ และดวยการที่ราคาของอาหารมีทีท่าว่าจะเเพงขึ้น ภูมิภาคเหล่านั้นจะไม่อยู่ในฐานะที่จะนำเข้าอาหาร ในปริมาณที่จำเป็นต่อการยังชีพของประชาชนได้
นักวิยาศาสตร์ระดับแนวหน้าในด้านความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศราเชน รา ปาชาลรีกล่าวว่าชาวนาที่ประสบความเดือดร้อน จะต้องนำมาตรการ เช่นการใช้ทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั้นมาใช้ และจะต้องมีการพัฒนาธัญพืชพันธุ์ใหม่ๆ ซึ่งสามารถทนต่อความร้อนสูง และต้องการน้ำหล่อเลี้ยงในปริมาณที่น้อยลงขึ้นมา คณะกรรมการระหว่างรัฐเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศแห่งสหประาชาติพยากรณ์ว่าระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นจาก 18 เซนติเมตรเป็น 59 เซนติเมตรภายในสิ้นศตวรรษนี้ และรัฐที่เป็นหมู่เกาะในย่านที่ราบลุ่มสามเหลี่ยมต่างๆ ในเอเชียจะรวมอยู่ในประเทศที่ถูกกระทบกระเทือนมากที่สุด