แม้เศรษฐกิจจะเติบโตรุดหน้าอย่างรวดเร็ว แต่อินเดียยังตามหลังประเทศอื่นๆในเรื่องการจัดหายาต้านเชื้อไวรัสให้แก่ผู้ป่วยโรคเอดส์ ซึ่งจนท.อินเดียบอกว่ากำลังมีความพยายามเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาต้านเชื้อดังกล่าวได้มากขึ้น
รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก UNICEF และ UNAIDS คาดการณ์ว่า มีผู้ติดเชื้อ HIV ชาวอินเดียที่ต้องการการรักษาน้อยกว่า 15% ที่สามารถเข้าถึงยาต้านเชื้อไวรัสได้นะครับ รายงานบอกว่ามีผู้ป่วย 55,000 คนที่ได้รับยาต้านเชื้อจากสถานพยาบาลของรัฐ และอีก 15,000 คนได้ยาจากคลินิกเอกชน ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่น้อยมากหากเทียบกับจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ทั่วประเทศที่ต้องได้รับการรักษา นอกจากนี้ มีผู้ติดเชื้อสตรีเพียงแค่ 3% เท่านั้นที่มีโอกาสได้รับยาเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสติดต่อไปสู่ลูกซึ่งนับเป็นจำนวนที่น้อยยิ่งกว่าน้อย
ปัจจุบันคาดว่าอินเดียมีผู้ติดเชื้อ HIV ราว 5 ล้าน 7 แสนคน ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าอินเดียยังตามหลังอีกหลายๆประเทศในด้านการจัดหายาต้านเชื้อ ตัวอย่างเช่น 32% ของผู้ติดเชื้อ HIV ในอาฟริกาใต้ที่ต้องการการรักษา สามารถเข้าถึงยาต้านเชื้อไวรัสได้ ในขณะเดียวกันที่เคนย่า สัดส่วนดังกล่าวสูงถึง 44% และที่ไนจีเรียแม้จะต่ำกว่าแต่ก็ยังสูงถึง 26% หากเทียบกับสัดส่วนเพียง 15% ในอินเดีย
คุณ Sujata Rao หัวหน้าองค์การควบคุมโรคเอดส์อินเดียกล่าวว่า จำเป็นต้องมีการระบุจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ต้องเข้ารับการรักษา ก่อนที่จะดำเนินการจัดหายาให้ครอบคลุมมากขึ้น
คุณ Sujata Rao บอกว่าเรื่องสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเพิ่มการทดสอบตรวจหาผู้ติดเชื้อให้มากขึ้น ต้องมีการทดสอบให้ได้ถึง 22 ล้านคนต่อปี เพื่อให้ทราบจำนวนแน่นอนว่ามีผู้ติดเชื้อเท่าไร มีกี่คนที่ต้องการยาต้านเชื้อ ในจำนวนนี้เป็นหญิงมีบุตรกี่คน ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรก
ในขณะเดียวกัน จนท.อินเดียเปิดเผยว่าปัญหาใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นคือการแพร่ระบาดเชื้อโรคเอดส์ในหมู่ผู้เสพยาด้วยเข็มฉีดยา ซึ่งเชื่อว่าส่วนใหญ่อยู่ในชนบทห่างไกลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ในขณะที่คุณ Sujata Rao ระบุว่าพบเชื้อ HIV ในกลุ่มผู้ใช้เข็มฉีดยาในส่วนอื่นๆของประเทศด้วยเช่นกัน
หัวหน้าองค์การควบคุมโรคเอดส์อินเดียผู้นี้กล่าวว่า มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าในเดลลี ปันจาบและมุมไบซึ่งเป็นเมืองสำคัญๆก็มีการแพร่ระบาดเชื้อเอดส์ในกลุ่มผู้ใช้เข็มฉีดยาเช่นกัน ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ซึ่งแสดงว่า โรคเอดส์กำลังลุกลามในหมู่วัยรุ่นที่เสพยา และเป็นเรื่องยากที่จะดึงเยาวชนเหล่านั้นออกจากยาเสพติด ยากที่จะเข้าหาพูดคุยและแก้ปัญหาให้พวกเขา
จนท.อินเดียระบุว่า หลักสำคัญของยุทธวิธีที่จะช่วยให้อินเดียหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ได้คือการให้การศึกษาเกี่ยวกับการป้องกันโรค และโครงการรณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปเกิดความตระหนัก รวมทั้งการกระจายถุงยางอนามัยออกไปทั่วประเทศด้วย
