การขับขี่อย่างปลอดภัย จำเป็นต้องมุ่งความสนใจในการขับรถให้เต็มที่ นี่เป็นคำแนะนำ โดยทั่วไปสำหรับผู้ขับขี่วัยหนุ่มสาว แต่สิ่งรบกวนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โทรศัพท์มือถือ อาจทำให้ เกิดความเสี่ยง หรือแม้แต่เป็นภัยต่อชีวิตของบรรดาวัยรุ่นได้
สื่อข่าววีโอเอ Faiza Elmasry มีรายงานว่า วุฒิสภาของรัฐเวอร์จิเนียพึ่งจะอนุมัติ กฏหมายที่ระบุอย่างชัดเจนว่าห้ามใช้โทรศัพท์ในขณะขับรถ
วุฒิสมาชิกเจย์ โอบรายน์ กล่าวว่าวัยรุ่นมักทำสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต วัยรุ่น แต่เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยแล้ว หากทำผิดพลาด อาจไม่สามารถแก้ไขได้อีก ความผิดพลาด ดังกล่าวอาจทำให้เสียชีวิต, อาจทำให้พิการตลอดชีพ หรืออาจทำร้ายผู้อื่นในแบบเดียวกัน วัย รุ่นจำนวนมากดูเหมือนจะไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการที่ไม่ใส่ใจในการขับรถอย่างเต็มที่ จึงมักจะทำหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจเป็นการเบนความสนใจของพวกเขา ไปจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนท้องถนน ไม่ว่าจะพูดคุย หัวเราะ คุยกับเพื่อนๆ, ใช้โทรศัพท์มือถือ ส่งข้อความ โดยไม่คำนึงว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นอันตรายแค่ไหน
สมาชิกสภานิติบัญญัติได้พยายามที่จะขจัดปัญหาเหล่านี้มาเป็นเวลา 2 ปี ด้วยการร่าง กฏหมายห้ามผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีใช้โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์สื่อสารไร้สายต่างๆ ในที่สุด เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร่างกฏหมายฉบับนี้ก็ได้รับการอนุมัติ กฏหมายฉบับนี้ไม่ใช่การห้ามใช้โทร ศัพท์มือถือ เพราะจะสิ้นสุดลงเมื่อผู้ขับขี่มีอายุ 18 ปี และจะมีผลกับบุคคลที่พึ่งจะมีใบขับขี่ที่มีอายุ 17-18 ปีเท่านั้น
คุณทีโมธี สมิธ ครูสอนขับรถที่มีใบรับรองกล่าวว่า เขาคิดว่ากฏหมายนี้เป็นมาตรการที่ดี เพราะในขณะที่เรียนขับรถ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือการตั้งใจขับรถอย่างเต็มที่ ดังนั้นการห้ามใช้โทร ศัพท์มือถือตั้งแต่ตอนที่วัยรุ่นเรียนขับรถ พวกเขาก็จะใช้โทรศัพท์มือถือน้อยลงเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ และว่าการห้ามวัยรุ่นใช้โทรศัพท์มือถือจะ ช่วยให้ชีวิตพวกเขาปลอดภัยมากขึ้น
คุณทีโมธี สมิธ กล่าวอีกว่า เขาเชื่อว่าทุกรัฐได้อนุมัติกฏหมายเพื่อคุ้มครองผู้ขับขี่ที่เป็นวัยรุ่น แล้ว อุบัติเหตุทางการจราจรยังคงเป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตวัยรุ่นสหรัฐ และว่ากฏหมายที่ห้าม ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือให้รัดเข็มขัดนิรภัยจะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น และย้ำว่าการที่จะให้แน่ใจถึง ความปลอดภัยของผู้ขับขี่วัยรุ่น ยังจำเป็นต้องมีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนขับรถให้ทันสมัยอยู่เสมอ
ครูสอนขับรถผู้นี้กล่าวอีกว่า กรณีรถชนกันที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นนั้น กว่า 90 เปอร์เซนต์ ไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ แต่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่เอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความวอกแวก, การขาดประสบการณ์, การไม่ใส่ใจต่อกฏจราจร หรือความมึนเมา และว่าสิ่งที่บรรดาครูสอนขับรถได้ปฏิบัติมาโดยตลอดระยะ เวลา 60 ปีเพื่อฝึกฝนบรรดาวัยรุ่นนั้น ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่สภาพการณ์ของท้องถนนนั้นที่เปลี่ยน ไป
คุณเจย์ โอบรายน์ วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่า แม้เจ้าหน้าที่รัฐบาลสามารถบังคับใช้กฏ หมาย และสามารถปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรการเรียนขับรถ แต่พ่อแม่ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วย ให้วัยรุ่น ปลอดภัยขึ้นเมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย เขาแนะนำว่าพ่อแม่ควรจะดูให้แน่ใจว่าลูกๆ ที่เป็นวัย รุ่นคำนึง ถึงอันตรายของการขับรถ, หมั่นฝึกฝนทักษะใหม่ๆ และปฏิบัติตามกฏจราจรอย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ และที่แน่นอนก็คือไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในการขับรถ
