ผู้แทนของจีนและสหรัฐฯ พบกันที่กรุงปักกิ่งเพื่อหารือประเด็นทางเศรษฐกิจที่สร้างความแตกต่างระหว่างสองประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่ประเด็นการค้าและภาษีกำลังได้รับความสนใจมากขึ้นในปีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่า ระหว่างการประชุม Economic Working Group ของสหรัฐฯ และจีน ปักกิ่งได้คัดค้านการขึ้นภาษีกับสินค้าที่ส่งออกไปจากจีน รวมทั้งข้อจำกัดอื่น ๆ ด้านการค้า การลงทุน และเทคโนโลยี
สื่อ Global Times ของทางการจีน รายงานว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ท่ามกลางความแตกต่างของสองประเทศ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณด้านบวกต่อธุรกิจของจีนกับสหรัฐฯ รวมทั้งประชาคมโลก ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้น
ด้านกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ผู้แทนอเมริกันได้เน้นย้ำความกังวลที่มีต่อนโยบายอุตสาหกรรมของจีนและการผลิตเกินศักยภาพ ซึ่งส่งผลต่อธุรกิจและแรงงานในอเมริกา พร้อมระบุว่า "เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่า อเมริกามิได้ต้องการแบ่งแยกเศรษฐกิจของสองประเทศออกจากกัน แต่ต้องการให้เกิดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งระหว่างกันมากกว่า เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันของบริษัทและแรงงานอเมริกัน"
โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะมีการหารือกันอีกครั้งในเดือนเมษายน
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเริ่มฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากการพบกันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่นครซานฟรานซิสโก เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แม้ว่ายังคงมีความตึงเครียดในหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องสถานะของไต้หวัน
ที่ผ่านมา ไบเดนยังคงใช้นโยบายเก็บภาษีนำเข้าในระดับสูงต่อสินค้าจากจีนซึ่งเป็นนโยบายที่ใช้มาตั้งแต่สมัยที่เกิดสงครามการค้าระหว่างสองประเทศภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ รัฐบาลไบเดนยังควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปคอมพิวเตอร์ของจีนอย่างเข้มงวด รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการผลิตชิปดังดล่าว
ขณะเดียวกัน กำลังเกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนในจีนว่า อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่นำมาใช้กับสินค้าจีน อาจเพิ่มขึ้นอีก หากโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งและได้กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งปลายปีนี้
- ที่มา: เอพี
กระดานความเห็น