กองทัพอิสราเอลให้เวลาชาวปาเลสไตน์อีกหกชั่วโมง ให้อพยพลงใต้ คาด ปูทางสู่การโจมตีที่รุนแรงขึ้น ด้านฮามาสบอกประชาชนให้ตั้งมั่นอยู่ในที่ตั้ง เวชภัณฑ์ WHO ถึงชายแดนแล้ว รอได้รับอนุญาตก่อนขนส่งเข้ากาซ่า
โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ริชาร์ด เฮชท์ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันเสาร์ ให้ชาวปาเลสไตน์อพยพจากพื้นที่ตอนเหนือ ลงไปยังพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซ่าเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการโจมตีของอิสราเอล
“ทำตามคำแนะนำของเรา เดินทางลงใต้ไปยังวาดี กาซ่า” เฮชท์กล่าว นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ IDF ยังระบุว่าประชาชนยังสามารถเดินทางลงใต้ด้วยถนนสายหลักได้ในวันเสาร์เวลา 10.00 - 16.00 น. ตามเวลาในท้องถิ่น
IDF ยืนยันในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า มีประชาชนอพยพออกจากเมืองกาซ่า ซิตี แล้ว หลังจากพวกเขาประกาศจะกวาดล้างกองกำลังติดอาวุธฮามาส ที่บุกเข้าโจมตีพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
“ท่านจะสามารถเดินทางกลับไปที่กาซ่า ซิตีได้ ก็ต่อเมื่อมีการประกาศอนุญาตอีกครั้ง” โฆษกของ IDF พ.ต. โจนาธาน คอนริคัส กล่าวในการแถลงที่ถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์ม X
เอพีรายงานว่า กลุ่มฮามาสได้เรียกร้องให้ทุกคน “ตั้งมั่นอยู่ในบ้านของท่าน และยืนหยัดต่อสงครามจิตวิทยาอันน่าขยะแขยงที่ปลุกเร้าโดยการเข้ายึดครอง”
รอยเตอร์รายงานข้อมูลจากโฆษกของกองทัพอิสราเอลว่า กองกำลังของอิสราเอลบุกเข้าไปในฉนวนกาซ่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อโจมตีหน่วยยิงขีปนาวุธของปาเลสไตน์และหาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่อยู่ของตัวประกันที่ถูกจับมา
ริยาด มันซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวกับนักข่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า การสั่งย้ายประชาชนชาวปาเลสไตน์ดังกล่าว เทียบเท่ากับการกวาดล้างชาติพันธุ์ และกล่าวว่า “ไม่มีที่ใดที่ปลอดภัยในฉนวนกาซ่า”
โฆษกกองทัพอิสราเอลที่กรุงเทลอาวีฟ อะวิเจย์ อาดรี กล่าวกับสำนักข่าวภาษาอารบิก Alhurra ซึ่งเป็นองค์กรลักษณะเดียวกันกับ VOA ว่า อิสราเอลกำลังยกระดับการบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่าซึ่งกลุ่มฮามาสใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติการทางทหาร
ข้อมูลจากกระทรวงกิจการภายในของกาซ่า ระบุว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 70 ราย บาดเจ็บ 200 ราย ขณะอพยพจากตอนเหนือของกาซ่า
ในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น เครื่องบินจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ลงจอดที่อียิปต์ใกล้กับด่านราฟาห์ ชายแดนระหว่างฉนวนกาซ่าและอียิปต์ โดยเลขาธิการของ WHO เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส กล่าวว่าเวชภัณฑ์ที่พวกเขาขนมาจะถูกส่งเข้าไปยังกาซ่าทันทีที่ได้รับอนุญาต
เทดรอสเรียกร้องผ่านแพลตฟอร์ม X ให้อิสราเอลทบทวนเรื่องการให้อพยพคน 1.1 ล้านคน เนื่องจากสิ่งนี้ “จะเป็นโศกนาฏกรรมของมนุษย์”
ก่อนหน้านี้ เลขาธิการ UN อันโตนิโอ กูเตร์เรซ ได้วิพากษ์วิจารณ์เรื่องกรอบเวลาที่อนุญาตให้คนอพยพเช่นกัน
อิสราเอลปิดล้อมกาซ่าเอาไว้โดยสิ้นเชิงตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การโจมตีของฮามาสที่สังหารชาวอิสราเอลไปมากกว่า 1,300 คน โดยอิสราเอลได้นำกำลังสำรองจำนวน 300,000 ราย เข้าประจำการใกล้กับชายแดนกาซ่า และระบุว่าจะยิงถล่มกาซ่าต่อไป จนกว่ากลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่มีจำนวนที่สามารถยืนยันได้แล้ว 120 ราย
การปิดล้อมทำให้ชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้า น้ำ และเชื้อเพลิง ซึ่งเพิ่มความยุ่งยากซับซ้อนให้กับการอพยพเข้าไปอีก ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่ากล่าวว่า มีชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารไปแล้วราว 1,800 คนจากการโจมตีของอิสราเอล
วันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้พูดคุยกับญาติของชาวอเมริกันที่อยู่ในพื้นที่การโจมตีของกลุ่มฮามาสเข้าไปในอิสราเอล โดยระบุว่าจะทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อนำตัวชาวอเมริกันเหล่านั้นกลับมา ทั้งนี้ ข้อมูลจากทางสหรัฐฯ รายงานว่ามีชาวอเมริกัน 27 รายถูกสังหารจากการบุกโจมตีของกลุ่มฮามาส และมี 14 รายที่ยังสูญหาย
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงการต่างประเทศ แอนโธนี บลิงเคน ได้เข้าพบกับกษัตริย์อับดุลลาห์แห่งจอร์แดน ที่กรุงอัมมาน และได้เข้าพบกประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ที่เดิมทียังลังเลที่จะประณามการโจมตีของฮามาส แม้จะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ก็เริ่มมีท่าทีไปในทิศทางดังกล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมา
บลิงเคนยังได้เดินทางต่อไปยังกาตาร์เพื่อพูดคุยกับผู้นำระดับสูงของประเทศ ระหว่างการแถลงข่าวที่จอร์แดน เขาถูกถามถึงชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอลสั่งอพยพ และตอบว่า สถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวนั้นมีความซับซ้อน และฮามาสก็ใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นโล่มนุษย์ และก็มีรายงานว่ามีความพยายามปิดถนนเพื่อไม่ให้ประชาชนหนีได้ด้วย
“โฟกัสของเราตอนนี้คือการช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัย” บลิงเคนกล่าว และระบุด้วยว่า “เรากำลังทำเรื่องนั้นร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำ เรากำลังทำเรื่องนั้นด้วยการเข้าหาอิสราเอล และเรากำลังทำงานร่วมกับประเทศอื่น ๆ”
นอกจากบลิงเคนแล้ว ลอยด์ ออสติน รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้เดินทางไปพบกับเหล่าผู้นำในรัฐบาลอิสราเอลในวันศุกร์ที่ผ่านมาเช่นกัน และยังได้ตรวจตราอาวุธและความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ส่งให้อิสราเอลแล้ว ซึ่งจะยังมีที่จะส่งไปเพิ่มเติมอีก
- ที่มา: VOA, AP, AFP, Reuters, Alhurra
กระดานความเห็น