เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังทำงานเเข่งกับเวลาในวันอังคารบริเวณส่วนที่ห่างไกลในมหาสมุทรเเอตเเลนติก เพื่อหาเรือดำน้ำที่ขาดการติดต่อขณะเดินทางไปชมซากเรือไททานิก โดยหวังว่าจะสามารถหาผู้เดินทางไป 5 ราย ก่อนที่ออกซิเจนในเรือจะหมดลง
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าเรือลำนี้ ซึ่งมีชื่อว่า 'ไททัน' ที่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ขาดการติดต่อตั้งเเต่คืนวันอาทิตย์ และทำให้นานาชาติพยายามตามหาเรือลำนี้ในน่านนำ้ทางใต้ของเมืองเซนต์จอนส์ มณฑลนิวฟันด์แลนด์ ของแคนาดา
ภายในเรือมีกัปตัน มหาเศรษฐีนักผจญภัยชาวอังกฤษ และสมาชิกครอบครัวบุคคลสำคัญในวงการธุรกิจของปากีสถานสองคน และผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือไททานิกอีกหนึ่งราย
เรือดำน้ำไททันมีออกซิเจนใช้ภายในลำเรือ 96 ชั่วโมงเมื่อเริ่มเดินทางตอน 6 โมงเช้าวันอาทิตย์ ตามข้อมูลของเดวิด คอนเเคนนอน ที่ปรึกษาบริษัทโอเชียนเกต (OceanGate) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการพาผู้โดยสารสำรวจซากเรือไททานิก
นั่นหมายความว่า ปริมาณออกซิเจนสำหรับคนในเรือจะหมดลงในเช้าวันพฤหัสบดี
ผู้เชี่ยวชาญแลร์รี เดลลี กล่าวว่าการดำดิ่งในระดับลึกขนาดนี้เป็นงานที่อันตรายมากเเต่เนื่องจากมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เขาจึงรู้สึกมีความหวัง
ทั้งนี้เรือไททานิกคือตำนานเรือขนาดมหึมาของอังกฤษที่ประสบอุบัติเหตุเเล่นชนภูเขานำ้เเข็งและดิ่งลงท้องมหาสมุทรเมื่อปี 1912 หรือ 111 ปีก่อน ในการเดินทางครั้งเเรก ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 คน
อาจารย์อะเลสเเตร์ กรีก ผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบวิศกรรมเรือแห่งมหาวิทยาลัย University College London กล่าวว่า ตามปกติเรือดำน้ำลักษณะนี้มีระบบป้องกันภัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่อการทำงานของไฟฟ้าหรือการสื่อสาร ระบบดังกล่าวจะใช้ทุ่นนำเรือลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ
อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าถ้าน้ำรั่วเข้าสู่โครงสร้างที่กำกับระบบความดัน ความเป็นไปได้ที่เรือจะรอดพ้นอันตรายค่อนข้างมีน้อย
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบเรือไททัน อาจารย์กรีกยังคงไม่เเน่ใจว่าจะสามารถนำเครื่องมือยึดติดกับเรือเพื่อนำสู่ผิวน้ำได้โดยง่าย
ในช่วงเช้าวันอังคาร หน่วยกู้ภัยทำงานครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ 25,000 ตารางกิโลเมตร ตามข้อมูลของหน่วยดูเเลความปลอดภัยตามชายฝั่งสหรัฐฯ หรือ ยูเอสโคสต์การ์ด (U.S. Coast Guard) ที่ให้ข้อมูลผ่านทวิตเตอร์
ตามปกติงานสำรวจซากเรือไททานิกของบริษัทโอเชียนเกตประกอบด้วยการพานักโบราณคดีและนักชีววิทยาทางทะเลเข้าศึกษาบริเวณที่เรือจมลง ขณะเดียวกันบริษัทรับผู้สนใจการผจญภัยร่วมเดินทางไปด้วย
หน่วยงานโคสต์การ์ดกล่าวว่า ภายในเรือไททันที่หายไปครั้งนี้ มีกัปตันหนึ่งคน ผู้รักการผจญภัยร่วมไปด้วยอีก 4 คน แต่ข้อมูลบนเว็บไซต์ของโอเชียนเกตชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่มีบุคคลอีกรายหนึ่งเดินทางไปด้วย ซึ่งน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญและทำให้ที่ไกด์
ทางการยังไม่เปิดเผยชื่อบุคคลที่ประสบเหตุในเรือไททัน แต่สำนักข่าวเอพีรายงานว่าชื่อของผู้โดยสารบางรายได้รับการยืนยันจากองค์กรที่เกี่ยวข้องแล้ว
หนึ่งในนั้นคือ ฮามิช ฮาร์ดิงนักธุรกิจชาวอังกฤษ ประธานบริษัทแอ็คชั่นเอวิเอชั่น (Action Aviation) เขาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่อาศัยอยู่ที่นครดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ฮาร์ดิงเป็นเจ้าของสถิติโลกสามรายการซึ่งรวมถึงการเดินทางสู่จุดต่ำที่สุดของบริเวณร่องลึกมหาสมุทรที่เรียกว่า 'มาเรียนาเทรนช์' เมื่อเดือนมีนาคม 2 ปีก่อน
นอกจากนั้น ผู้โดยสารยังประกอบด้วย ชาห์ซาดา และสุเลมาน ดาวูด เเม่และลูกชายชาวปากีสถาน จากครอบครัวนักลงทุนในหลายธุรกิจตั้งเเต่การเกษตรไปจนถึงภาคการดูเเลสุขภาพ
นักสำรวจชาวฝรั่งเศสและผู้เชี่ยวชาญเรื่องเรือไททาทิก พอล-อองรี นาร์จีโอเลต์ อยู่ในเรือด้วยเช่นกัน ตามข้อมูลของเอพีที่อ้างอิงคำพูดของเดวิด กัลโล เพื่อนของเขาที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อซีเอ็นเอ็น
- ที่มา: เอพีและวีโอเอ