สำนักข่าวรอยเตอร์ออกรายงานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. จากการสัมภาษณ์ศิริกัญญา ตันสกุลจากพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นตัวเต็งของพรรคสำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในความพยายามจัดตั้งรัฐบาล
เธอกล่าวถึงแผนงานด้านเศรษฐกิจว่าจะให้ความสำคัญกับสวัสดิการประชาชน เพิ่มค่าเเรงขึ้นต่ำและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รวมทั้งลดปัญหาคอร์รัปชัน
ประเทศไทยซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการขยายตัวของเศรษฐกิจเมื่อปีที่เเล้วที่ระดับ 2.6% และได้ฟื้นตัวจากการชะลอตัวช่วงโควิด-19 อย่างไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ตามรายงานของสื่อต่างชาติแห่งนี้
บทความนี้ระบุด้วยว่าไทยตามหลังอัตราการขยายตัวของประเทศในภูมิภาคเช่นเวียดนามและอินโดนีเซีย ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากความปั่นป่วนทางการเมืองของไทย
รอยเตอร์รายงานว่าพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเเกนนำจัดตั้งรัฐบาลหลังได้จำนวนที่นั่งเหนือคู่เเข่งในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. มีนโยบายขึ้นค่าเเรงขั้นต่ำ 27%-37% ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจบางส่วนไม่สบายใจ
ศิริกัญญา วัย 42 ปีผู้ซึ่งได้รับการศึกษาจากประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่างานหลักของพรรคคือเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน
ทั้งนี้ หากดูอัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อขนาดเศรษฐกกิจหรือจีดีพี ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตัวเลขดังกล่าวสูงที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย โดยหนึ่งในสามของประชากรไทย 66 ล้านคนอยู่ในภาวะ "ติดกับดักหนี้"
ศิริกัญญากล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลได้บริหารประเทศ จะมีนโยบายช่วยภาคครัวเรือนด้านค่าไฟ และให้เเรงจูงใจต่อธุรกิจขนาดเล็ก โดยเธอระบุว่ารายได้ภาคครัวเรือนควรเติบโต 5% ต่อปี และหวังว่าเศรษฐกิจรากหญ้าที่เเข็งเเกร่งขึ้นจะเป็นผลดีโดยรวมในระดับประเทศด้วยเช่นกัน
ศิริกัญญา ซึ่งเคยเป็นนักวิจัยด้านนโยบายสาธารณะ กล่าวว่าแผนขึ้นค่าเเรงขั้นต่ำของพรรคก้าวไกลจะพิจารณาถึงความกังวลของภาคเอกชนด้วยและหวังที่จะทำงานเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มเอกชน
เเละเพื่อเป็นการหารายได้มาสำหรับโครงการสวัสดิการประชาชน พรรคก้าวไกลมองหาวิธีการลดความซับซ้อนในการเก็บภาษี ออกมาตรการภาษีใหม่ ๆ และลดปัญหาคอร์รัปชัน ศิริกัญญากล่าว
เธอกล่าวด้วยว่า พรรคของเธอสนับสนุนกลไกตลาด ตัวอย่างเช่น การลดการผูกขาดเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและประสิทธิภาพมากขึ้น
- ที่มา: รอยเตอร์
