อดีตนักล่ากลับใจกลายเป็นผู้พิทักษ์เต่าทะเล

เต่าทะเลทุกชนิดที่พบในฟิลิปปินส์กำลังเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ แต่ตอนนี้เต่าทะเลเหล่านั้นมีภัยคุกคามน้อยลง เพราะหลาย ๆ คนที่เคยเก็บไข่ไปกินหรือขาย หันกลับมาพยายามปกป้องเต่าทะเลให้ปลอดภัย

ก่อนหน้านี้นักล่าเต่าทะเลจะเก็บไข่และจับเต่าอย่างผิดกฎหมายเพื่อนำไปขายหรือกินเนื้อของมัน

แต่ขณะนี้ องค์กรอนุรักษ์ต่าง ๆ กำลังให้ความรู้แก่บรรดาอดีตนักล่าเต่าทะเลถึงวิธีการเก็บไข่อย่างปลอดภัยและปกป้องพวกมันก่อนที่จะฟักออกมาเป็นตัว โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการนี้จะได้รับเงินประมาณ 37 เซ็นต์ หรือราว 13 บาทต่อไข่หนึ่งใบ ซึ่งมากกว่าที่พวกเขาเคยได้รับจากการขายอย่างผิดกฎหมายถึงสี่เท่า

จอห์นนี่ มานลูกาย (Johnny Manlugay) หนึ่งในอดีตผู้ลักลอบล่าเต่าทะเล ซึ่งเป็นช่างก่อสร้างอายุ 55 ปี เล่าว่าเขาเคยไปที่ชายหาดในตอนกลางคืนเพื่อขโมยไข่เต่าไปกินหรือนำไปขาย แต่ตอนนี้เขาเดินไปตามชายหาดพร้อมแสงไฟสว่างจ้าเพื่อมองหารังเต่าและไข่ที่อยู่ข้างใน

มานลูกายจะมองหาไข่ของเต่าหญ้าออลีฟ ริดเลย์ (Olive Ridley) โดยนำสุนัขสองตัวของเขาไปช่วยหาไข่ด้วย เขาบอกว่าเขาได้เรียนรู้ที่จะรักงานนี้ พร้อมกล่าวเสริมว่าเขาไม่ทราบมาก่อนว่าการกินไข่เต่าและเนื้อของเต่านั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

ชายผู้นี้จะเก็บไข่อย่างระมัดระวังและนำไข่เหล่านั้นไปมอบให้แก่กลุ่มอนุรักษ์ที่มีชื่อว่า “เคอร์มา” (CURMA) ซึ่งย่อมาจาก Coastal Underwater Resource Management Actions โดยเคอร์มาจะนำไข่ไปวางไว้ใต้ทรายในบริเวณที่ปลอดภัย เมื่อลูกเต่าฟักตัวออกมา พวกมันจะถูกนำทางไปยังน้ำทะเล

เคอร์มาพยายามช่วยอนุรักษ์เต่าฟิลิปปินส์ ซึ่งนอกจากจะมีเต่าหญ้าออลีฟ ริดเลย์ แล้ว เต่าชนิดอื่น ๆ ที่พบได้แก่ กรีน ฮอว์คสบิล ล็อกเกอร์เฮด และ เล็ตเธอร์แบ็ค

เต่าทะเลหรือ “ปาวิกาน” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น ตกอยู่ในอันตรายไม่เพียงแต่จากผู้ลักลอบล่าสัตว์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียที่อยู่อาศัยด้วย

กลุ่มอนุรักษ์ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2009 โดยสมาชิกของกลุ่มได้สอนวิธีการเก็บไข่ให้แก่นักล่าเต่า และเมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาได้ช่วยชีวิตเต่าทะเลไว้ได้หลายพันตัวเลยทีเดียว

คาร์ลอส ทามาโย (Carlos Tamayo) หนึ่งในผู้นำของเคอร์มากล่าวว่า “เราได้พูดคุยกับผู้ลักลอบล่าเต่า และปรากฏว่าการล่าเต่าทะเลก็เป็นเพียงอีกวิธีหนึ่งในการหาเลี้ยงชีพของพวกเขา” และว่าพวกเขาทำไปเพราะไม่มีทางเลือกอื่น

เจสซี่ คาบัคบัค (Jessie Cabagbag) วัย 40 ปี หนึ่งในอดีตนักล่าที่ตอนนี้หันมาช่วยเต่า เขาโตมากับการกินไข่และเนื้อของมัน แต่ตอนนี้เขาเก็บไข่และรักษามันไว้อย่างปลอดภัย เขาบอกว่าเงินพิเศษที่ได้รับช่วยให้เขานำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น เช่น ค่าอาหารและค่าไฟ นอกจากนี้เขายังซื้อรถสามล้อ เพื่อรับผู้โดยสารไปยังที่ต่าง ๆ ซึ่งเงินที่เขาได้รับมานั้นสามารถช่วยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในยามเขาไม่สามารถเก็บไข่ได้

ในบางครั้งภรรยาของคาบัคบัคและลูกชายวัย 7 ขวบของเขาก็ช่วยเก็บไข่เต่าด้วย ตั้งแต่เดือนตุลาคม พวกเขาได้นำไข่กว่า 1,000 ใบไปให้องค์กรเคอร์มา ซึ่งคาบัคบัคกล่าวว่าเมื่อเขาได้รับการฝึกอบรมและเรียนรู้ว่าเต่ากำลังใกล้จะสูญพันธุ์ เขาก็หยุดการล่าเต่าทะเลทันที

เมื่อลูกเต่าฟักตัวออกมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากจะมาชมพวกมันวิ่งเล่นบนชายหาดและลงไปในน้ำ คาบัคบัคกล่าวว่าการที่ได้เห็นเต่าลงไปในน้ำทะเลอย่างปลอดภัยทำให้เขารู้สึกสุขใจ และว่า เขารู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ‘ปาวิกาน’ หรือเต่าทะเล

• ที่มา: รอยเตอร์