ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าววันจันทร์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิงของจีน ว่าทั้งคู่ต่างมีความรับผิดชอบในการหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดเเย้งกันในฐานะประเทศมหาอำนาจ
การหารือกันครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมสุดยอดจี-20 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ท่ามกลางความคาดหวังว่า มหาอำนาจทั้งสองจะลดความตึงเครียดระหว่างกัน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีนกำลังถึงจุดต่ำสุดในช่วงหลายทศวรรษ
ก่อนการหารือกันแบบตัวต่อตัวของไบเดนและสี ซึ่งเป็นการพบกันเเบบซึ่งหน้าครั้งเเรกตั้งเเต่ไบเดนดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้มและจับมือทักทายกันอย่างอบอุ่น ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
"ดีใจอย่างมากที่ได้พบคุณ" ไบเดนกล่าวต่อสี พร้อมโอบตัวผู้นำจีน ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าหารือกันสามชั่วโมงเศษ
รอยเตอร์รายงานว่า แม้ภาพก่อนการประชุมจะเป็นไปอย่างชื่นมื่น แต่ประธานาธิบดีไบเดน นำประเด็นร้อนหลายเรื่องเข้าหารือ ซึ่งรวมถึง จุดยืนของสหรัฐฯ ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำ "เชิงบังคับ" และเเข็งกร้าวขึ้นของจีนต่อไต้หวัน
นอกจากนั้น ไบเดนส่งสัญญาณต่อสี ว่า อเมริกาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในมณฑลซินเจียงและฮ่องกง รวมถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยรวม ตลอดจนการปฏิบัติของจีนด้านเศรษฐกิจที่ไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ในฐานะผู้นำของประเทศ ในความเห็นของผม เรามีความรับผิดชอบร่วมกัน ที่จะเเสดงให้เห็นว่าจีนและสหรัฐฯ สามารถบริหารจัดการความเเตกต่างของกันละกันได้ เเละป้องกันมิให้การเเข่งขันกลายเป็นความขัดเเย้ง รวมถึงหาทางทำงานร่วมกันในเรื่องที่เร่งด่วนของโลก"
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนจะเดินทางไปสานต่อความคืบหน้าการเจรจาหลังจากนี้ ตามข้อมูลของทำเนียบขาว
รอยเตอร์รายงานว่า ไบเดนและสีมิได้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด ถึงเเม้ว่าผู้ร่วมเดินทางมาด้วยของเเต่ละฝ่ายสวมหน้ากากป้องกัน
ในการตอบกลับไบเดน ประธานาธิบดีจีนกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯและจีนไม่เป็นไปตามที่ประชาคมโลกคาดหวัง
"ดังนั้นเราต้องเดินให้ถูกทางในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ เราจำเป็นต้องหาทิศทางที่ถูกต้องในการมีความสัมพันธ์ทวิภาคีจากนี้ต่อไป และยกระดับความสัมพันธ์นี้ด้วยเช่นกัน" สี จิ้นผิงกล่าว
เขาเสริมว่า ตนรอคอยที่จะทำงานร่วมกับไบเดน เพื่อนำความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้กลับมาสู่แนวทางที่ควรจะเป็น
รอยเตอร์รายงานด้วยว่า เกิดเหตุการณ์ความสับสนในช่วงเริ่มต้นของการประชุมสุดยอดจี-20 เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ซึ่งมาประชุมเเทนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ใช้เสียงดังตำหนินักข่าวโลกตะวันตก
เขาเเสดงท่าทีเช่นนั้นหลังจากที่มีรายงานข่าวออกไปว่าเขาถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลที่บาหลี เนื่องจากมีอาการทางหัวใจ
"นี่คือเกมแบบหนึ่ง ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ทางการเมือง" ลาฟรอฟกล่าวพร้อมรอยยิ้มแกมประชด ตามรายงานของรอยเตอร์ "นักข่าวโลกตะวันตกควรซื่อสัตย์กับความจริงมากกว่านี้" เขากล่าวต่อ
โฆษกของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวว่า รายงานดังกล่าวเป็นข่าวปลอม พร้อมลงคลิปวิดีโอ ที่เเสดงให้เห็นว่า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกำลังอ่านเอกสารอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการเขตบาหลี ไอ วายาน โคสเตอร์ บอกกับรอยเตอร์ว่าลาฟรอฟได้เดินทางไปโรงพยาบาลที่บาหลี โดยใช้เวลาสั้น ๆ ที่นั่น เพื่อ "เช็คสุขภาพ" และว่า สุขภาพของลาฟรอฟอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียคนอื่น ๆ ปฏิเสธที่จะเเสดงความเห็น
ประธานาธิบดีโจไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยหารือกัน 5 ครั้งผ่านโทรศัพท์และระบบออนไลน์ก่อนหน้าพบกันในครั้งนี้ ตั้งเเต่ไบเดนเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021
และไบเดนเคยพบกับสีในฐานะรองประธานาธิบดีมาเเล้วสมัยการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ประธานาธิบดีโจโค วิโดโดของอินโดนีเซีย ประเทศเจ้าภาพจี-20 กล่าวว่า เขาหวังที่จะให้การประชุมครั้งนี้นำความเป็นหุ้นส่วนกันให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและหวังว่าผลของการประชุมจะสามารถช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก
อีกประเด็นร้อนหนึ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือเรื่องสงครามที่รัสเซียก่อขึ้นในยูเครน โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ไบเดนจะยังคงเเข็งขันในการช่วยปกป้องยูเครน
ในช่วงที่ผ่านมา ความไม่ไว้วางในโลกตะวันตกที่สีและปูตินมีร่วมกัน ทำให้รัสเซียเเละจีนมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น
แม้ว่าสีเเละปูตินประกาศยืนยันความเเน่นแฟ้นในความสัมพันธ์ไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้น จีนเดินเกมอย่างระมัดระวังโดยไม่ต้องการให้จีนถูกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจจากตะวันตก
ท่าทีระมัดระวังของจีนในเรื่องรัสเซียยังเกิดขึ้นที่การที่การประชุมอาเซียน ณ กรุงพนมเปญ ของกัมพูชา ด้วย
ที่เวทีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เค่อเฉียง ย้ำว่าการใช้คำขู่เรื่องนิวเคลียร์ "เป็นการขาดความรับผิดชอบ" ซึ่งรอยเตอร์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งว่า หลี่เเสดงถึงความไม่สบายใจของจีนต่อวาทะของรัสเซียเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ โลกตะวันตกกล่าวหารัสเซียว่าใช้คำขู่เรื่องนิวเคลียร์ในความขัดเเย้งที่เกิดขึ้กับยูเครนอย่างไร้ความรับผิดชอบ เเต่รัสเซียตอบโต้ว่า ฝ่ายโลกตะวันตกต่างหากที่ยั่วยุเรื่องอาวุธนิวเคลียร์
รัฐมนตรีลาฟรอฟของรัสเซียกล่าวว่า ฝ่ายตะวันตกกำลังทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "กลายเป็นกองทัพ" ในความพยายามตีกรอบรัสเซียและจีน ที่มีผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้เช่นกัน
สำหรับบทบาทของประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีในการประชุมจี-20 เขามีกำหนดแถลงการณ์ผ่านระบบวิดีโออนไลน์ในวันอังคาร
- ที่มา: รอยเตอร์