ธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% มาอยู่ที่ระดับ 1.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ใน 19 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรในวันพฤหัสบดีนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์
นี่ถือเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องของ ECB ในการประชุม 3 ครั้งที่ผ่านมา และทาง ECB คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาอยู่ที่ระดับเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% พร้อมส่งสัญญาณว่าจะดึงเงินออกจากระบบธนาคารยุโรปเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อเพิ่มอีก
คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า สถานการณ์ยูเครนและความไม่แน่นอนทั่วโลก ยังส่งผลให้เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านลบต่อเนื่อง และความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่สูง
เมื่อถูกถามในประเด็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป กล่าวย้ำว่า “ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเอง และงานของเราคือการสร้างเสถียรภาพด้านราคา” และเรียกร้องให้รัฐบาลใน 19 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรดำเนินมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะเงินเฟ้ออย่างระมัดระวังและไม่ทำให้ภาวะเงินเฟ้อเลวร้ายลงกว่าเดิม
ธนาคารกลางยุโรป ได้ยกเลิกมาตรการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อหวังกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดำเนินมาหลายปี หลังจากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ที่เป็นผลมาจากการบุกยูเครนของรัสเซียและเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวอย่างไม่คงเส้นคงวาหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ขณะที่นักวิเคราะห์ตั้งคำถามว่ามาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เศรษฐกิจยุโรปทรุดหนักถึงขั้นถดถอยหรือไม่
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไปถึงระดับ 2% ในเดือนธันวาคมปีนี้ และปรับขึ้นไปที่ 3% ในปีหน้า
- ที่มา: รอยเตอร์
