เหลือเวลาอีก ประมาณสองสัปดาห์ก็จะถึงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ คนอเมริกันสองฝั่งการเมืองต่างมีความเห็นตรงข้ามกันในหลายเรื่อง เช่น เศรษฐกิจ สังคม และทิศทางนโยบายต่าง ๆ ของประเทศ
แต่สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกันคือมุมมองเกี่ยวกับจีน การสำรวจความคิดเห็นประชาชนโดยศูนย์ Pew Research พบว่าในปีนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 82 มีมุมมองเชิงลบต่อจีน ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์
เมื่อปี 5 ที่เเล้ว มีชาวอเมริกันร้อยละ 47 ที่มองจีนในเเง่ลบ และทั้งผู้ที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันและเดโมแครต ต่างพูดถึงจีนว่า เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่น่าหวั่นเกรง
เจ ดี แวนซ์ จากพรรครีพับลิกัน ผู้ลงแข่งเป็นวุฒิสมาชิกรัฐโอไฮโอ ผู้ที่ได้รับการหนุนหลังจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า “เราจะต้องหยุดการทำตัวอ่อนแอในเรื่องที่เกี่ยวกับจีน”
ส่วนคู่แข่งของเขา ทิม ไรอัน จากพรรคเดโมเเครต กล่าวว่า “จีนชนะเราในเรื่องการผลิตสินค้า และถึงเวลาแล้วที่เราต้องสู้กลับ”
เสียงสะท้อนลักษณะนี้ เรื่องการมีจีนเป็นเป้าหมายร่วมต่อการถูกโจมตีโดยนักการเมืองเดโมเเครตและรีพับลิกัน ยังเกิดขึ้นมี่สนามเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย ระหว่าง จอห์น เฟตเตอร์แมนจากเดโมเเครต และนายแพทย์ เมห์เม็ต ออซ หรือ "ดร. ออซ" แห่งรีพับลิกัน ที่ต้องชิงเก้าอี้วุฒิสมาชิกกันในการเลือกตั้งกลางเทอม วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้
ในรัฐแอริโซนา ที่สนามแข่งวุฒิสมาชิก มาร์ค เคลลี จากพรรคเดโมเเครต เจ้าของตำแหน่ง และตัวแทนของรีพับลิกัน เบลค มาสเตอร์ส มีท่าทีเเข็งขันกับจีนเหมือนกัน
กล่าวคือ เคลลี เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญต่อกฎหมายอเมริกันที่ต้องการเอาชนะสงครามเทคโนโลยีกับจีน ส่วนมาสเตอร์กล่าวว่านักศึกษาจากประเทศจีน เป็นภัยด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ
รองศาสตราจารย์ ดีน เชน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ แห่งวิทยาลัยรามาโพ ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาจีนกลาง ว่า “เมื่อมีการแบ่งขั้วและแข่งขันกันสูง มันจะมีเรื่องที่เด่นพอที่จะสร้างความสนใจ และปกติจะเป็นเรื่องง่าย ที่จะหาศัตรูร่วมจากภายนอก เพื่อให้ได้แรงสนับสนุนจากภายใน”
ส่วนอาจารย์ แฟรงค์ เซสโน แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน กล่าวว่า “เรื่องที่เกี่ยวกับจีนถูกจัดว่าให้เป็นประเด็นความมั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ใช่แค่เป็นคู่แข่ง แต่เป็นศัตรูเลยทีเดียว”
จำนวนกฎหมายที่ผ่านสภาสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างช่วยฉายภาพความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเดโมเเครตและรีพับลิกัน ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น
การวิจัยของสมาคมการค้าของภาคเอกชนสหรัฐฯที่มีธุรกิจในจีน U.S. China Business Council ชี้ให้เห็นว่า จำนวนกฎหมายที่เกี่ยวกับกับจีนผ่านสภาอเมริกัน เพิ่มขึ้นจาก ประมาณ 200-250 ฉบับเมื่อ 5 ปีก่อน มาเป็นกว่า 700 ฉบับในปีนี้
ตัวอย่างของกฎหมายเหล่านั้นประกอบด้วย CHIP ACTS ที่สนับสนุนเงิน 52,700 ล้านดอลลาร์ในการเพิ่มการแข่งขันด้านชิพคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้นยังมีกฎหมายสกัดการให้เงินจากสหรัฐฯไปส่งเสริมบริษัทเทคโนโลยีของจีน และอีกฉบับที่ห้ามการสนับสนุนสินค้าจากการบังคับใช้แรงงานในมลฑลซินเจียงของจีน
กฎหมายที่กล่าวมาข้างต้นได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากนักการเมืองเดโมแครตและรีพับลิกันในสหรัฐฯ
ศาตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์ แดน ชนูร์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์คลีย์ กล่าวว่า “ผมคิดไม่ออกว่ามีเรื่องอื่นที่ทำให้สองพรรคนี้ วางความแตกต่างไว้ข้าง ๆ ” และร่วมมือกันได้ขนาดนี้
เขาอธิบายว่าสาเหตุ ที่คนจำนวนมากต้องการให้สหรัฐฯ แข็งขันกับประเด็นจีนมากขึ้น มาจากการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่เป็นคนทำงานในโรงงาน ไม่คิดว่าพวกตนได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อกันของเศรษฐกิจโลก และเป็นเรื่องง่ายที่นักการเมืองไม่ว่าจะอยู่พรรคใดก็ตามจะหาโอกาสจากบรรยากาศเช่นนี้
- ที่มา: วีโอเอ