ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวยกย่องความสำเร็จของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และสนับสนุนภาคเอกชนและกลไกตลาดให้มีส่วนสำคัญใน "ระบบเศรษฐกิจสังคมนิยม" ของจีน
ประธานาธิบดีสี กล่าวในพิธีเปิดการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นทุก 5 ปี โดยมีผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จากทั่วประเทศราว 2,300 คนเข้าร่วมที่หอประชุมใหญ่ประชาชนจีน ทางฝั่งตะวันตกของจตุรัสเทียนอันเหมิน ภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
คาดว่าในการประชุมครั้งนี้ ปธน.สี จะได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 ไปอีก 5 ปี ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจาก เหมา เจ๋อ ตุง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ และประธานาธิบดีจีน เป็นสมัยที่ 3
นอกจากประเด็นโควิดและเศรษฐกิจ ปธน.สี จิ้นผิง ยังกล่าวยกย่องการรับมือสถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงเมื่อไม่กี่ปีก่อน และการปกป้องการแยกตัวเองของไต้หวันออกจากจีนแผ่นดินใหญ่
สี กล่าวด้วยว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีสมาชิก 96 ล้านคน สามารถเอาชนะปัญหาความยากจนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติได้สำเร็จ
ทั้งนี้ อำนาจทางการเมืองของสี จิ้นผิง มิได้รับผลกระทบมากนักจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจากมาตรการ "โควิดเป็นศูนย์" ที่จีนนำมาใช้เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 รวมทั้งความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่แย่ลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะความขัดแย้งทางการค้าและสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
เมื่อ 4 ปีก่อน สีได้ปรับแก้กฎเกณฑ์เรื่องการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง 2 สมัยของประธานาธิบดีจีน เพื่อให้ตนสามารถดำรงตำแหน่งสมัยที่ 3 ได้ โดยคาดว่าระหว่างการประชุมครั้งนี้จะมีการรับรองตำแหน่งของเขา ในฐานะเลขาธิการใหญ่ของพรรคฯ และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร อย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะมีการประกาศวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ในการประชุมสภาประชาชนจีนในเดือนมีนาคมปีหน้า
นอกจากนี้ ปธน.สี จะประกาศรายชื่อคณะกรรมาธิการโพลิตบูโรชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง ในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม ฝั่งผู้คัดค้านการบริหารประเทศของสี จิ้นผิง มองว่าผู้นำจีนรายนี้เป็นผู้นำที่จุกจิกเน้นรายละเอียดและเป็นผู้นำเผด็จการที่ย่ำแย่ โดยเปรียบเทียบเขากับอดีตผู้นำเหมา เจ๋อตุง และกล่าวหาผู้นำสีว่าพยายามอยู่ในอำนาจตลอดไป นอกจากนี้ยังโจมตีการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อคุมการระบาดของโควิดที่อ้างว่าเป็นมาตรการรักษาชีวิตประชาชนจีน ว่าทำให้เศรษฐกิจจีนและระบบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกได้รับผลกระทบ
- ที่มา: วีโอเอ และรอยเตอร์