มาเรีย เรสซา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งกำลังสู้คดีหมิ่นประมาทที่ศาลอุทธรณ์เพิ่งตัดสินคงคำตัดสินของศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกและเพิ่มระยะเวลารับโทษไปด้วย ประกาศพร้อมที่จะเดินหน้าต่อสู้คดีดังกล่าวในศาลสูงต่อไป
ในวันอังคาร ศาลอุทธรณ์ยืนยันคำพิพากษาลงโทษ เรสซา ด้วยการจำคุก 6 ปี และตัดสินเพิ่มโทษอีก 8 เดือนด้วย แต่ในระหว่างที่มีการเดินเรื่องอุทธรณ์ได้นี้ เรสซา ยังไม่ต้องเข้ารับโทษและมีอิสรภาพอยู่
ธีโอดอร์ เท ทนายความของ เรสซา บอกว่า คำตัดสินของศาลอุทธรณ์ “น่าผิดหวัง” และว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงการ “เพิกเฉย ต่อหลักฐานที่นำเสนอไป”
คดีนี้เกิดขึ้นหลังนักธุรกิจรายหนึ่งยื่นฟ้อง เรสซา และ เรย์โนลด์ ซานโตส อดีตนักเขียนของเว็บไซต์ Rappler ว่า ทำการหมิ่นประมาทผ่านบทความออนไลน์ที่ตีพิมพ์ในปี 2012 และชี้ว่า นักธุรกิจรายนั้นมีความเกี่ยวพันกับเรื่องผิดกฎหมายต่าง ๆ โดยศาลชั้นต้นตัดสินในเดือนมิถุนายน ปี 2020 ว่า ทั้งคู่มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้องมาจริง
ในครั้งนั้น ศาลระบุว่า เว็บไซต์ Rappler ซึ่ง เรสซา เป็นผู้ก่อตั้ง และมีชื่อเสียงด้านรายงานข่าวเชิงสืบสวน ไม่ได้เปิดโอกาสให้โจทก์ออกมาหักล้างคำกล่าวหา แม้จะพยายามติดต่อสื่อแห่งนี้เพื่อนำเสนอข้อมูลของตนแล้วก็ตาม
เรสซา ซึ่งถือทั้งสัญชาติฟิลิปปินส์และอเมริกัน กล่าวว่า คดีนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะก่อกวนเธอ และระบุในแถลงการณ์ที่มีออกมาหลังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ว่า “การพยายามก่อกวนและข่มขู่ทั้งตัวดิฉันและ Rappler ยังเดินหน้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และระบบกฎหมายฟิลิปปินส์ก็ไม่ได้ช่วยหยุดยั้งเรื่องนี้เลย”
ทั้งตัวเธอและเว็บไซต์ Rappler ตกเป็นเป้าการฟ้องร้องในศาลมาหลายครั้งแล้ว โดยในบรรดาคดีต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ข้อกล่าวหาว่าเลี่ยงภาษี ไปจนถึงการละเมิดกฎหมายควบคุมการเป็นเจ้าของกิจการสื่อโดยคนต่างชาติ
เรื่องราวของ เรสซา ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี ค.ศ. 2021 ร่วมกับ ดมิทรี มูราตอฟ ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับจุดยืนของรัฐบาลในการจัดการกับสื่อมวลชน โดยเฉพาะเมื่อประเทศนี้ได้ชื่อว่า เป็นพื้นที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียสำหรับสื่อมวลชน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุรายหนึ่งในฟิลิปปินส์เพิ่งตกเป็นเหยื่อรายล่าสุดจากการถูกยิง ซึ่งตอกย้ำสถิติการเสียชีวิตของสื่อมวลชนนับไม่ถ้วนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
- ที่มา: วีโอเอ