คณะกรรมการางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประกาศมอบรางวัลนี้ให้กับ อเลส บิยอลยัตสกี้ นักเคลื่อนไหวชาวเบลารุสที่ถูกคุมขัง และองค์กรอีกสองแห่งคือ องค์กร “เม็มโมเรียล” และหน่วยงานของยูเครนที่ชื่อ Center for Civil Liberties
การให้รางวัลครั้งนี้ เป็นการช่วยย้ำถึงความสำคัญของภาคประชาสังคมที่ทำงานเพื่อสันติภาพและประชาธิปไตยตามรายงานของรอยเตอร์
บีริต รีส-แอนดอร์เซน ประธานคณะกรรมการฯ กล่าวว่า “คณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งนอร์เวย์ ต้องการให้เกียรติต่อตัวอย่างอันโดดเด่นของการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตยและการอยู่รวมกันอย่างสันติของเบลารุส รัสเซียและยูเครนซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน”
รอยเตอร์ รายงานว่ารางวัลโนเบลสันติภาพในปีนี้ ถูกมองจากหลายฝ่ายว่าเป็นการประณามประธานาธิบดีรัสเซียและเบลารุส ซึ่งก็คือวลาดิเมียร์ ปูตินซึ่งมีอายุครบ 70 ปีในวันศุกร์ และอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก
อย่างไรก็ตามรีส-แอนดอร์เซน กล่าวว่ารางวัลสาขาสันติภาพในครั้งนี้ไม่ได้เป็นต่อต้านประธานาธิบดีปูติน
เธอกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรามอบรางวัลสำหรับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ไม่ได้ให้รางวัลนี้เพื่อต่อต้านบุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ตำรวจเบลารุสบุกที่ทำงาน และบ้านพักของทนายและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนหลายคน ซึ่งรวมถึงอเลส บิยอลยัตสกี้ โดยเขาและคนอื่น ๆ ถูกคุมตัว ในความพยายามของฝ่ายความมั่นคงที่ต้องการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามของประธานาธิบดีลูคาเชนโก
การมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งรวมถึงเงินมูลค่า 900,000 ดอลลาร์แก่ผู้ชนะ จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมที่กรุงออสโล วันดังกล่าวเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของอัลเฟรด โนเบลนักบุกเบิกอุตสาหกรรมชาวสวีเดนที่ระบุในพินัยกรรมของเขาเมื่อปี 1895 ให้มีการก่อตั้งรางวัลโนเบลขึ้น
ในคำสรรเสริญผู้ได้รับรางวัล คณะกรรมการฯ กล่าวว่า “ผู้ที่ได้รางวัลสันติภาพคือตัวแทนภาคประชาสังคมในประเทศของพวกเขา พวกเขาใช้เวลาหลายปีทำงานเพื่อสนับสนุนสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจและปกป้องสิทธิพื้นฐานของประชาชน”
คณะกรรมการฯ ระบุด้วยว่า “พวกเขาเป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของพยายามรวบรวมเอกสารเรื่องอาชญากรรมสงคราม การกระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชน และการใช้อำนาจในทางที่ผิด พวกเขาร่วมกันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภาคประชาสังคมที่ทำงานเพื่อสันติภาพและประชาธิปไตย”
- ที่มา: รอยเตอร์