กองทัพยูเครนรายงานในวันจันทร์ว่า ทหารรัสเซียใช้ปืนใหญ่ยิงโจมตีใส่หลายพื้นที่ในแคว้นดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครน และบางเมืองในภาคใต้ รวมทั้งหมู่บ้านรอบ ๆ เมืองเคอร์ซอน เมืองมีโคลาอีฟ และเมืองซาปอริห์เชีย
ที่เมืองซาปอริห์เชีย ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นบริเวณรอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในเมืองนี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างยังคงกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้ยิงอาวุธใส่พื้นที่ไม่ห่างจากโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ซึ่งถูกรัสเซียยึดไว้เมื่อเดือนมีนาคม
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาคารบางส่วนของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริห์เชียถูกโจมตีเสียหาย ซึ่งผู้บริหารโรงไฟฟ้าแห่งนี้ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวตกอยู่ในความเสี่ยงว่าจะละเมิดมาตรฐานควบคุมและป้องกันกัมมันตรังสีและอัคคีภัย
สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA (International Atomic Energy Agency) กล่าวว่า "มีความเสี่ยงที่จะเกิดหายนะด้านนิวเคลียร์อย่างแท้จริง" นอกเสียจากทั้งสองฝ่ายจะยุติการต่อสู้บริเวณนี้ และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
การขนส่งธัญพืชออกจากยูเครน
เรือขนส่งสินค้าที่สหประชาชาติเช่าเหมาลำ เดินทางออกจากท่าเรือในยูเครนพร้อมธัญพืช 23,000 ตันแล้วในวันอาทิตย์ โดยมีเป้าหมายนำอาหารไปบรรเทาปัญหาขาดแคลนอาหารในประเทศเอธิโอเปีย
เรือสินค้าติดธงไลบีเรีย เบรฟ คอมแมนเดอร์ (Brave Commander) เดินทางออกจากท่าเรือยุซห์เน เมืองโอเดซา เมื่อวันอาทิตย์ มุ่งหน้าไปยังประเทศจิบูตีเพื่อนำธัญพืชลงจากเรือและขนส่งต่อไปยังเอธิโอเปีย ภายใต้การทำงานขององค์การอาหารโลก หรือ WFP (World Food Program)
ยูเครนและรัสเซีย บรรลุข้อตกลงกับตุรกีและสหประชาชาติเมื่อสามสัปดาห์ก่อน เพื่อเริ่มเส้นทางการขนส่งอาหารผ่านทะเลดำอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาวิกฤติอาหารโลกในปัจจุบันซึ่งเริ่มรุนแรงขึ้นหลังจากที่รัสเซียรุกรานยูเครน
ทั้งนี้ เอธิโอเปีย คือหนึ่งในห้าประเทศที่ยูเอ็นมองว่ากำลังประสบปัญหาอดอยากหิวโหยอย่างรุนแรง
เดนิส บราวน์ ผู้ประสานงานของ WFP กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า "ธัญพืชอยู่ที่นี่ และมีความต้องการอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศยากจนเหล่านี้" และว่า "เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในข้อตกลงนี้จะร่วมมือกันเพื่อจัดการปัญหาที่แท้จริงด้านมนุษยธรรม ดังนั้นวันนี้จึงถือเป็นสัญญาณที่ดี"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์
