การประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศระหว่างอินเดียกับประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน เริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่กรุงนิวเดลี โดยจะใช้เวลาสองวันในการหารือประเด็นสำคัญตั้งแต่ความร่วมมือระหว่างอินเดียกับอาเซียน ความขัดแย้งของสหรัฐฯ กับจีน ตลอดจนสงครามในยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย สุพรหมณยัม ชัยศังกระ และรัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ วิเวียน บาลากฤษณัน ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุมครั้งนี้ร่วมกัน เน้นย้ำถึงการแข่งขันขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ กับจีนในภูมิภาคนี้ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นในเอเชีย รวมทั้งความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดจากสงครามในยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า "สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้หากไม่ได้รับการแก้ไข จะเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพและความมั่นคงที่ถือเป็นปัจจัยเกื้อหนุนการเจริญเติบโตและความรุ่งเรืองของอินเดียและอาเซียนมานานหลายทศวรรษ"
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย กล่าวเช่นกันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน ราคาสินค้าและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ทำให้การฟื้นฟูทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ จากการระบาดใหญ่ ยิ่งเป็นงานที่ยากลำบาก
เขากล่าวว่า บทบาทของอาเซียนจะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน และได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการยกระดับเครือข่ายความเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลระหว่างอินเดียกับประเทศในอาเซียน เพื่อสนับสนุนการกระจายความพัฒนาไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก และการทำให้ห่วงโซ่อุปทานมีความมั่นคงแข็งแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนยังได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ด้วย
ทั้งนี้ การกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียนทั้งในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ถือเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้น ๆ ของทั้งอินเดียและสหรัฐฯ เพื่อหาทางคานอำนาจจีนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกับบรรดาผู้นำอาเซียนที่กรุงวอชิงตัน และระบุถึง "ยุคสมัยใหม่" ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับอาเซียน
ที่ผ่านมา ประเทศในอาเซียนหลายประเทศมีเหตุขัดแย้งกับจีนเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า จีนยังคงเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของประเทศในอาเซียน ในขณะที่อินเดียเองนั้นมีปริมาณการค้าโดยรวมกับอาเซียนไม่มากนัก คือประมาณ 78,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
- ที่มา: วีโอเอ