ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จีน เรียกทฤษฎี ‘โควิดรั่วไหลจากห้องแลบ’ เป็นเรื่องโกหกพกลม


FILE: Marion Koopmans, (R) and Peter Ben Embarek, (C), of the World Health Organization team say farewell to their Chinese counterpart Liang Wannian, (L), after a WHO-China Joint Study Press Conference at the end of the WHO mission in Wuhan, China, Feb 9,
FILE: Marion Koopmans, (R) and Peter Ben Embarek, (C), of the World Health Organization team say farewell to their Chinese counterpart Liang Wannian, (L), after a WHO-China Joint Study Press Conference at the end of the WHO mission in Wuhan, China, Feb 9,

รัฐบาลจีนออกมาโต้รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เรียกร้องให้มีการเดินหน้าสอบสวนที่มาของโควิด-19 โดยชี้ว่า ทฤษฎีที่ว่า ภาวะระบาดใหญ่เป็นวงกว้างของโคโรนาไวรัสนั้นน่าจะมีจุดเริ่มที่การรั่วไหลของไวรัสมาจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์แห่งหนึ่งจีน เป็นเรื่องโกหกที่มีมูลเหตุมาจากเรื่องการเมือง ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ท่าทีล่าสุดของจีนเกี่ยวกับกรณีที่มาของวิกฤตสาธารณสุขโลกครั้งนี้มีออกมาในวันศุกร์ หลัง WHO ให้ความเห็นยืนยันอย่างแข็งขันว่า ควรมีการสืบสวนให้ลึกลงไปอีกเพื่อพิสูจน์ว่า อุบัติเหตุในห้องทดลองแห่งหนึ่งในจีนคือสาเหตุของการระบาดครั้งนี้

นอกจากนั้น จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง ยังปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่า จีนไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทีมสืบสวนของ WHO พร้อมกล่าวว่า จีนยินดีร่วมมือกับการสอบสวนที่ดำเนินการตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ แต่ปฏิเสธที่จะตกเป็นเบี้ยของการเล่นเกมการเมืองใด ๆ

โฆษกฯ จ้าว ยังยืนยันคำเรียกร้องของจีนให้มีการสอบสวน “ห้องแลบที่น่าสงสัยยิ่ง เช่น (ห้องทดลองที่) ฟอร์ต เดทริก และมหาวิทยาลัยแห่งนอร์ทแคโรไลนา” ในสหรัฐฯ ซึ่งจีนกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า เป็นสถานที่ที่สหรัฐฯ ทำการพัฒนาโคโรนาไวรัสให้เป็นอาวุธชีวภาพ

FILE - Chinese Foreign Ministry spokesman Zhao Lijian gestures as he speaks during a daily briefing at his ministry in Beijing, Feb. 24, 2020.
FILE - Chinese Foreign Ministry spokesman Zhao Lijian gestures as he speaks during a daily briefing at his ministry in Beijing, Feb. 24, 2020.

จ้าว ลี่เจียน ระบุระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า “ทฤษฎีการรั่วไหลออกมาจากห้องแลบ คือ เรื่องโกหกพกลมที่ปั้นแต่งขึ้นมาโดยกลุ่มต่อต้านจีน เพื่อจุดประสงค์ทางการเอง โดยไม่ได้มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด”

นอกจากนั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวว่า จีนนั้น “ให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการใช้วิทยาศาสตร์ติดตามไวรัสไปทั่วโลก แต่เรา(จีน)ต่อต้านอย่างสุดกำลังต่อการบิดเบือนใด ๆ เพื่อหวังผลทางการเมือง” พร้อมกล่าวย้ำว่า การมีส่วนร่วมของจีนอย่างมากในการติดตามไวรัส และการแบ่งปันข้อมูลและผลการวิจัยทั้งหลัง “สะท้อนให้เห็นภาพการเปิดเผย ความโปร่งใส และทัศนคติต่อการมีส่วนรับผิดชอบของจีนอย่างเต็มที่ รวมทั้ง การสนับสนุนการดำเนินงานของ WHO และคณะที่ปรึกษาด้วย”

ทั้งนี้ รายงานที่ WHO เปิดเผยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ตรงกันข้ามกับการประเมินขององค์กรนี้ในช่วงต้นของการระบาดอันเกี่ยวกับจุดกำเนิดของไวรัสนี้ และมีออกมาหลังหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์องค์การอนามัยโลกว่า ปัดตกหรือทำการลดความสำคัญของทฤษฎีว่าด้วยการรั่วไหลของไวรัสออกมาจากห้องแลบเร็วเกินไป

หลังจากทีมงานของ WHO เดินทางเข้าตรวจสอบสถานการณ์ในจีนที่รัฐบาลกรุงปักกิ่งควบคุมอย่างใกล้ชิดสิ้นสุดลงเมื่อปีที่แล้ว องค์การแห่งนี้เปิดเผยข้อสรุปว่า “เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้อย่างมากที่สุด” ที่โคโรนาไวรัสนั้นแพร่กระจายจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์มาสู่มนุษย์ ในเมืองอู่ฮั่น โดยนักวิทยาศาสตร์หลายรายสงสัยว่า ไวรัสดังกล่าวอาจมีจุดกำเนิดมาจากค้างคาวก่อนจะแพร่มาสู่คน ผ่านสัตว์ประเภทอื่น

Members of the World Health Organization (WHO) team, tasked with investigating the origins of the coronavirus disease (COVID-19), don personal protection suits during a visit at the Hubei Animal Epidemic Disease Prevention and Control Center in Wuhan, Hub
Members of the World Health Organization (WHO) team, tasked with investigating the origins of the coronavirus disease (COVID-19), don personal protection suits during a visit at the Hubei Animal Epidemic Disease Prevention and Control Center in Wuhan, Hub

อย่างไรก็ดี ในรายงานฉบับล่าสุดนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญของ WHO ระบุว่า ทีมงานยังคงไม่สามารถหา “ข้อมูลชิ้นสำคัญ” ในการอธิบายว่า การระบาดเป็นวงกว้างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรอยู่ และว่า ทีมงานจะยังคง “เปิดกว้างยอมรับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่อาจปรากฏขึ้นในอนาคต เพื่อให้มีการทดสอบสมมติฐานทั้งหลายที่สมเหตุสมผลได้อย่างครอบคลุม”

โดยปกติ การบ่งชี้ที่มาของโรคที่เกิดจากสัตว์ใด ๆ นั้นมักใช้เวลาหลายปีถึงจะได้ข้อสรุป โดยนักวิทยาศาสตร์ใช้เวลากว่า 1 ทศวรรษกว่าจะสรุปได้ว่า ค้างคาวชนิดใดเป็นแหล่งเพาะเชื้อซาร์ส (SARS) ขณะที่ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กรณีการรั่วไหลของเชื้อจากห้องแลบนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตและกลายมาเป็นต้นตอของภาวะระบาดใหญ่เป็นวงกว้างมาแล้ว ดังนั้น จึงไม่ควรด่วนตัดความน่าของประเด็นนี้ออกจากการสืบสวน โดยเฉพาะเมื่อ จีนยังไม่ได้นำเสนอผลการศึกษาใด ๆ ให้กับ WHO ประเมินเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของกรณีการหลุดรอดของโคโรนาไวรัสออกมาจากห้องทดลองเลย

นับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มา มีผู้คนเสียชีวิตลงไปแล้วกว่า 6.3 ล้านคนทั่วโลก และหลายประเทศตัดสินใจดำเนินมาตรการล็อกดาวน์จนทำให้สภาพเศรษฐกิจโลกพลิกคว่ำไม่เป็นท่าไปแล้ว

ทีมสืบสวนของสำนักข่าวเอพี พบว่า ผู้บริหารระดับสูงบางรายของ WHO รู้สึกไม่พอใจจีนในช่วงที่เกิดการระบาดใหม่ ๆ แม้ว่า ในเวลานั้น ทางองค์การจะกล่าวชื่นชมประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อย่างมากมายก็ตาม และยิ่งไม่พอใจขึ้นไปอีก เมื่อจีนพยายามหยุดยั้งการค้นคว้าวิจัยหาต้นตอของโควิด-19

  • ที่มา: เอพี

XS
SM
MD
LG