สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟุมิโอะ คิชิดะ และนายกรัฐมนตรีไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมประกาศข้อตกลงด้านการทหารฉบับใหม่ในวันจันทร์ รวมทั้งแผนยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของสองประเทศ ขณะที่ผู้นำญี่ปุ่นเยือนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นปลายทางสุดท้ายของการเยือนประเทศในแถบอาเซียน 3 ประเทศ
ความตกลงดังกล่าวรวมถึงการจัดส่งยุทธภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านการทหารจากญี่ปุ่นมายังประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดและมีอาวุธยุทโธปกรณ์มากที่สุดในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีความสัมพันธ์ด้านการทหารยาวนานกับสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ระบุว่า ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงระหว่างญี่ปุ่นกับไทยดังกล่าว
นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อ่านแถลงการณ์ร่วมกับนายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ระบุว่า ข้อตกลงนี้จะช่วยยกระดับการป้องกันประเทศและสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่นในด้านนี้ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายสำคัญของไทย
นอกจากนี้ยังได้มีการหารือเรื่องการปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานสินค้าต่าง ๆ และการจัดทำร่างความเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจกับญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 ปี
ที่ผ่านมา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นจุดหมายการลงทุนของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งในญี่ปุ่น ตั้งแต่ภาคสาธารณูปโภคพื้นฐาน วิศวกรรม และการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมเพื่อผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นภูมิภาคสำคัญที่สองมหาอำนาจคือ สหรัฐฯ และจีน พยายามแผ่ขยายอิทธิพลทั้งทางเศรษฐกิจและการทหารตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา
ก่อนที่จะเยือนประเทศไทย นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เดินทางเยือนเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าและการลงทุนรายใหญ่ของญี่ปุ่นเช่นกัน โดยได้มีการหารือเรื่องสงครามในยูเครนระหว่างการเยือนอาเซียนครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมีนาคม ไทยเป็นหนึ่งในเจ็ดประเทศกลุ่มอาเซียนที่ลงคะแนนสนับสนุนมติของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA ที่ขอให้รัสเซียยุติความรุนแรงกับยูเครน และสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครน
นายกฯ คิชิดะ กล่าวขอบคุณพลเอกประยุทธ์ที่สนับสนุนในเรื่องนี้ โดยบอกว่า "เห็นด้วยกับพลเอกประยุทธ์ว่า การละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน หรือการใช้กำลังทหารแต่ฝ่ายเดียวเพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะใด ๆ ก็ตาม เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ ไม่ว่าจะในภูมิภาคใดก็ตาม"
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีด้านกิจการสาธารณะของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะขยายวงเงินกู้มูลค่า 50,000 ล้านเยน หรือประมาณ 13,000 ล้านบาทให้แก่รัฐบาลไทย เพื่อสนับสนุนโครงการรับมือการระบาดของโควิด-19 ด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์