สำนักข่าว เอพี รายงานโดยอ้างข้อมูลจากอัยการรัฐนิวยอร์กว่า มีหลักฐานจากการสืบสวนที่ชี้ว่า ธุรกิจของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นทำการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ “อันหลอกลวงและชี้นำให้เข้าใจผิด” เพื่อขอกู้เงินและประโยชน์ทางภาษี
ทีมทนายความของ อัยการ เลทิเชีย เจมส์ ยื่นเรื่องต่อศาลในช่วงค่ำของวันอังคารตามเวลาในสหรัฐฯ โดยระบุในเอกสารว่า ทางอัยการยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะทำการฟ้องผู้ใดเกี่ยวกับกรณีฉ้อโกงดังกล่าว แต่ทีมสืบสวนประสงค์ที่จะทำการสอบปากคำอดีตประธานาธิบดีและบุตรคนโต 2 คน อย่างเป็นทางการ เพื่อการสอบคดีแพ่ง
ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัท ทรัมป์ ออร์แกนิเซชั่น (Trump Organization) ออกคำแถลงในวันพุธที่ระบุว่า การสืบสวนดังกล่าว เป็นการสืบสวน “ที่ไม่มีมูล” และเกิดขึ้นเพราะมีเหตุจูงใจทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม เอพี รายงานว่า ข้อมูลที่อัยการนิวยอร์กยื่นต่อศาลนั้นมีรายละเอียดเกี่ยวกับระบบบัญชีของธุรกิจของอดีตผู้นำสหรัฐฯ มากที่สุดเท่าที่มีการเปิดเผยออกมา สำหรับการสืบสวนที่ดำเนินมาเป็นเวลานานพอควรแล้วเกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทของทรัมป์นั้นแสดงมูลค่าสินทรัพย์เกินจริงเพื่อหลอกสถาบันการเงินให้ประทับใจ หรือทำการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับมูลค่าที่ดินของตนเพื่อลดภาระภาษี
อัยการ เจมส์ ระบุว่า ทรัมป์ ออร์แกนิเซชั่น แจ้งมูลค่าของที่ดินที่บริจาคในรัฐนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนียสูงเกินความเป็นจริง ในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานสรรพากรสหรัฐฯ เพื่ออธิบายว่าทำไมถึงบันทึกส่วนลดภาษีไปเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ โดยทางบริษัทรายงานขนาดของห้องพักหรูในเขตแมนฮัตตันสูงกว่าขนาดที่วัดได้จริงเกือบ 3 เท่า ซึ่งส่งผลให้มูลค่าการประเมินเพิ่มขึ้นราว 200 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ทีมอัยการนิวยอร์กร้องขอให้ศาลอนุมัติให้ออกหมายเรียก อิวังกา ทรัมป์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ บุตรีและบุตรชายของอดีตปธน.สหรัฐฯ มาให้การด้วย
แต่ ทรัมป์ ออร์แกนิเซชั่น ระบุในคำแถลงว่า “คนๆ เดียวที่ชี้นำประชาชนแบบผิดๆ คือ เลทิเชีย เจมส์” และว่า อัยการนิวยอร์กพยายามใช้ตำแหน่งของตนในการจัดการกับทรัมป์อย่างหนัก แต่ผ่านไป 3 ปีแล้วก็ยังไม่สามารถยื่นเรื่องฟ้องได้เสียที
นอกจากนั้น ทีมนักกฎหมายของทรัมป์ยังพยายามหาทางสกัดไม่ให้ศาลออกหมายเรียกใดๆ และเมื่อเดือนที่แล้ว ยังขอให้ศาลรัฐบาลกลางตัดสินสั่งให้ อัยการ เจมส์ ยุติการสืบสวนทั้งหมดด้วย แต่คำร้องดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาและศาลยังไม่มีคำพิพากษาใดๆ ออกมา
- ที่มา: เอพี