กองทัพอิสราเอลส่งกำลังทหารราบเข้าโจมตีกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการปะทะกันระหว่างสองฝ่ายที่หลายฝ่ายกลัวว่าอาจจะยกระดับขึ้นไปเป็นสงครามเต็มรูปแบบในไม่ช้านี้
รายงานข่าวระบุว่า การยิงถล่มใส่กันระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธฮามาสยังคงดำเนินอยู่ในพื้นที่ฉนวนกาซา โดย พันโท โจนาธาน คอนริคุส โฆษกของกองทัพอิสราเอลเปิดเผยว่า อิสราเอลได้ส่งเครื่องบินรบ 160 ลำและทหารราบอีก 3 กองพล รวมทั้งรถถังจำนวนหนึ่งเข้าโจมตีกลุ่มฮามาสที่ยิงจรวดเข้าใส่ฝ่ายตนอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ กองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอลทวีตข้อความที่ระบุว่า กำลังทหารของตน “กำลังทำการโจมตีฉนวนกาซาอยู่ในเวลานี้” ก่อนที่จะอ้างว่ามีการสื่อสารผิดพลาด และชี้แจงว่า เป็นการยิงปืนใหญ่เข้าใส่กลุ่มฮามาสจากพื้นที่ของอิสราเอลเท่านั้น
พันโท คอนริคุส เปิดเผยด้วยว่า เป้าหมายของการโจมตีของอิสราเอลเข้าใส่ฉนวนกาซานั้นอยู่ที่ระบบอุโมงค์อันมีความซับซ้อนในพื้นที่นั้นซึ่งกลุ่มฮามาสได้สร้างขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน โดยอิสราเอลต้องการจะจัดการกับเครือข่ายอุโมงค์ดังกล่าวให้เสร็จสิ้น ก่อนส่งกองทหารราบเดินเท้าเข้าไป
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซา ยืนยันกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ ว่า ยังไม่เห็นทหารราบของฝั่งอิสราเอลเข้ามาในพื้นที่ แต่มีการยิงถล่มด้วยปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศอย่างหนักมาโดยตลอด
ทั้งนี้ อิสราเอลได้เรียกกำลังสำรองจำนวนราว 9,000 นายเข้าร่วมกับกองกำลังที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดนแล้ว
เจ้าหน้าที่การแพทย์ในกาซาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 13 รายในพื้นที่ตอนเหนือของกาซา ในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันหยุดอีด (Eid al-Fitr) ของศาสนาอิสลาม โดยในจำนวนนี้มีผู้หญิง 1 คน และลูกๆ 3 คนของเธอ
นับตั้งแต่มีการสู้รบเกิดขึ้นเมื่อ 5 วันก่อน มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 119 คน ซึ่งรวมถึง เด็กอย่างน้อย 27 คน และผู้หญิงอย่างน้อย 11 คน รวมทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 830 คน ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา
ทางฝั่งอิสราเอลนั้น มีรายงานว่า ประชาชนเสียชีวิตจากการโจมตีโดยจรวจแล้ว 8 คน โดยหนึ่งในนั้นคือเด็กชายอายุ 6 ปี
ขณะเดียวกัน ชาวมุสลิมหลายพันคนในบังคลาเทศออกมาเดินขบวนบนท้องถนนของกรุงธากา ในวันศุกร์ เพื่อประท้วงการที่อิสราเอลโจมตีชาวปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับที่ตุรกี ที่ผู้นับถือศาสนาอิสลามออกมาเดินประท้วงเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
และหลังการสู้รบระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยืดเยื้อติดต่อกันหลายวัน และยกระดับความรุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตกลงที่จะจัดประชุมด่วนในวันอาทิตย์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
