เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดนมาร์กประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างที่กำลังตรวจสอบรายงานที่ว่ามีผู้ป่วยบางคนเกิดปัญหาลิ่มเลือดหลังจากได้รับวัคซีนดังกล่าว
รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก แมกนัส ฮิวนิกเก้ กล่าวว่า ทางการกำลังตรวจสอบว่าวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกาทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงในลักษณะของลิ่มเลือดหรือไม่ และว่าคำสั่งระงับครั้งนี้เป็นเพียงการระวังป้องกัน และยังไม่มีการสรุปใด ๆ ว่าลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
ทางด้านสำนักงานการแพทย์เดนมาร์ก ยืนยันเช่นกันว่ากำลังร่วมมือกับสำนักงานการแพทย์ของยุโรป (EMA) และหน่วยงานด้านสาธารณสุขอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบกรณีนี้เช่นกัน
เมื่อไม่กี่วันก่อน ออสเตรียได้สั่งระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา หลังจากพบว่ามีผู้ได้รับวัคซีนรายหนึ่งมีลิ่มเลือดเกิดขึ้นหลายก้อนและเสียชีวิตในเวลาต่อมา และอีกคนหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากเส้นเลือดที่ปอดเกิดการอุดตันเพราะลิ่มเลือด หรือที่เรียกว่า pulmonary embolism
อย่างไรก็ตาม EMA ได้ทำการตรวจสอบและไม่พบความเกี่ยวข้องระหว่างวัคซีนโควิดกับกรณีดังกล่าว ถึงกระนั้น มีอย่างน้อย 4 ประเทศ คือ เอสโตเนีย ลิธัวเนีย ลักเซมเบิร์ก และแลตเวีย ที่ได้สั่งระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในคราวเดียวกันนี้แล้วในขณะที่การสืบสวนกำลังดำเนินต่อไป โดยวัคซีนชุดนี้ได้ถูกส่งไปยัง 17 ประเทศในยุโรปในเวลาไล่เลี่ยกัน
ทางด้านบริษัทแอสตราเซเนกามีแถลงการณ์ว่า ได้มีการตรวจสอบคุณภาพของวัคซีนโควิดอย่างเคร่งครัด และที่ผ่านมายังไม่มีรายงานยืนยันถึงผลข้างเคียงร้ายแรงของวัคซีนดังกล่าวแต่อย่างใด