วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรองนายไมเคิล แพ็ค (Michael Pack) ผู้ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของสำนักงานสื่อระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (U.S. Agency for Global Media - USAGM) คนใหม่
USAGM ทำหน้าที่ดูแลกำกับเครือข่ายการแพร่ภาพและกระจายเสียง 5 แห่งของสหรัฐฯ ได้แก่ Voice of America (VOA), Radio Free Europe/Radio Liberty (RFE/RL), the Office of Cuba Broadcasting (OCB), Radio Free Asia (RFA) และ Middle East Broadcasting Networks (MBN)
วุฒิสมาชิกลงมติ 53-38 รับรองให้นายแพ็ค นักสร้างภาพยนตร์สารคดีผู้มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ให้ดำรงตำแหน่งซีอีโอของ USAGM โดยมีวาระ 3 ปี หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เสนอชื่อเขาเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ถูกชะลอเนื่องจากความกังวลของสมาชิกพรรคเดโมแครตที่มีต่อข้อกล่าวหาด้านการเงินของเขา
ไมเคิล แพ็ค เป็นเจ้าของบริษัท Manifold Productions, Inc., เขาเคยเป็นซีอีโอสถาบัน Claremont และดำรงตำแหน่งใน National Endowment for the Humanities and the Corporation for Public Broadcasting
ผลงานด้านสารดคีของเขาหลายเรื่องออกอากาศทางเครือข่ายโทรทัศน์ PBS และเขาเคยทำงานผลิตสื่อให้กับนายสตีเฟน แบนนอน อดีตหัวหน้าฝ่ายวางแผนของทรัมป์ และผู้ก่อตั้งสำนักข่าว Breitbart News
ก่อนหน้านี้ นายแพ็คดำรงตำแหน่ง ผอ.ของเครือข่ายดาวเทียม WORLDNET ของสำนักงานข่าวสารของสหรัฐฯ ที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ Voice of America
ในกระบวนการตอบคำถามเพื่อรับรองการดำรงตำแหน่งของเขาเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว นายแพ็คได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความกังวลว่าเขาจะนำความคิดทางการเมืองเข้าไปมีอิทธิพลต่อการทำงานใน USAGM ซึ่งรวมถึง VOA หรือไม่นั้น
นายแพ็คตอบว่า "ความน่าเชื่อถือขององค์กรนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อว่าผู้สื่อข่าวมีอิสระในการทำงาน และไม่มีอิทธิพลทางการเมืองชี้นำว่าพวกเขาต้องรายงานข่าวอย่างไร ซึ่งหากไม่มีความน่าเชื่อถือนั้น องค์กรแห่งนี้ก็จะผุกร่อนอย่างแน่นอน"
ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อน ปธน.ทรัมป์ วิจารณ์ VOA เรื่องการรายงานข่าวเกี่ยวกับจีนในช่วงการระบาดของโคโรนาไวรัส และเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการเสนอชื่อนายแพ็ค ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า "เวลานี้ Voice of America ไม่ใช่เสียงของอเมริกา แต่เป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้าม"
อย่างไรก็ตาม อแมนด้า เบนเน็ทท์ (Amanda Bennett) ผอ.ของ VOA ได้ออกมาปกป้องการทำงานขององค์กรสื่อแห่งนี้ว่า "เราส่งออกเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ บทที่ 1 ไปยังผู้คนทั่วโลกที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริง ถูกต้องและน่าเชื่อถือ"
"และนั่นคือเหตุผลว่าทำไม 80% ของผู้ชมผู้ฟังจำนวน 280 ล้านคน ใน 47 ภาษา และมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก จึงเชื่อว่างานของเราน่าเชื่อถือจริง" ผอ. VOA ระบุ