กระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวุฒิสภาสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้วในวันพฤหัสบดีตามเวลาในกรุงวอชิงตัน
หัวหน้าผู้พิพากษาของคณะตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ หรือ Supreme Court ผู้พิพากษาจอห์น โรเบิร์ต ทำพิธีสาบานตนเพื่อทำหน้าที่ควบคุมดูแลกระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ จากนั้นสมาชิกวุฒิสภาอเมริกันทั้ง 100 คน ทำพิธีสาบานตนว่าจะทำหน้าที่อย่างถูกต้องเที่ยงธรรมเช่นกัน โดยวุฒิสมาชิกจะทำหน้าที่เสมือนคณะลูกขุน ในกระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนคณะผู้แทนจากสภาล่างจะทำหน้าที่คล้ายอัยการในการยื่นฟ้องขอถอดถอนประธานาธิบดี
ส.ว. มิทช์ แม็คคอนแนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวว่า ขั้นตอนสุดท้ายในวันพฤหัสบดีนี้ คือการแจ้งให้ทำเนียบขาวรับทราบ และเรียกให้ประธานาธิบดีมาตอบคำถามในคำฟ้องจากสภาล่าง หรือส่งตัวแทนหรือที่ปรึกษาทางกฎหมายมาตอบคำถามแทน
สำหรับกระบวนการพิจารณาคดีส่วนใหญ่นั้นจะมีขึ้นในวันอังคารหน้า
เมื่อวานนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส.ส. แนนซี เพโลซี แต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 7 คน เพื่อทำหน้าที่คณะผู้ดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอถอดถอนประธานาธิบดี หรือ Impeachment Managers ซึ่งจะทำหน้าที่คล้ายอัยการในการยื่นขอถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ นำโดย ส.ส. อดัม ชิฟฟ์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และ ส.ส. เจอโรลด์ แนดเลอร์ ประธานคณะกรรมาธิการด้านตุลาการของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ
กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเป็นทางการมุ่งเป้าส่วนใหญ่ไปที่เรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ขอให้ประธานาธิบดียูเครนตรวจสอบคู่แข่งทางการเมือง คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน และลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารบริษัทพลังงานในยูเครน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางทหารสหรัฐฯ ต่อยูเครนเกือบ 400 ล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีทรัมป์ กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองของสหรัฐฯ ที่ถูกสภาล่างเสนอถอดถอน ตามหลังอดีตประธานาธิบดี แอนดรูว์ จอห์นสัน และอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ส่วนผู้นำสหรัฐฯ อีกคนหนึ่งซึ่งถูกกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนเช่นกัน คืออดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน แต่ได้ชิงลาออกจากตำแหน่งก่อนที่กระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์