ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารเมื่อวันจันทร์เพื่อใช้มาตรการลงโทษด้านการเงินต่ออิหร่านและเรียกมาตรการที่ใช้ใหม่นี้ว่าเป็นการลงโทษอย่างได้ผลและตรงเป้า
โดยมาตรการดังกล่าวมุ่งจำกัดอยาโตลาห์ อาลี คาเมเนอิ ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรวมทั้งผู้นำกองทัพอีกแปดคนไม่ให้เข้าถึงตลาดการเงินของโลก และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเรียกการตัดสินใจที่ประกาศวันนี้ว่าจะทำให้อิหร่านไม่สามารถนำทรัพย์สินนับหมื่นล้านดอลลาร์มาใช้ประโยชน์ได้
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่ามาตรการลงโทษทางการเงินต่อผู้นำอิหร่านนี้เป็นการตอบโต้อย่างแข็งขันและได้สัดส่วนที่เหมาะสมของรัฐบาลสหรัฐต่อการที่อิหร่านยิงโดรนลาดตระเวนของสหรัฐซึ่งบินอยู่ในน่านฟ้าระหว่างประเทศตกในช่องแคบฮอร์มุซ และว่าตนตัดสินใจใช้มาตรการลงโทษที่ว่านี้จากพฤติกรรมที่มุ่งร้ายของอิหร่านหลายครั้ง เช่น การโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันของนอร์เวย์และญี่ปุ่นในอ่าวโอมานด้วย
โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้นำสหรัฐตัดสินใจไม่ใช้การตอบโต้ทางทหารต่อเป้าหมายในอิหร่านโดยให้เหตุผลว่าเพื่อสงวนชีวิตของชาวอิหร่านราว 150 คน แต่ก็กล่าววันนี้ว่าสหรัฐได้ใช้ความอดกลั้นอย่างมากและก็ไม่ได้หมายถึงว่าสหรัฐจะแสดงความอดกลั้นแบบนี้อีกในอนาคต
การออกคำสั่งผู้นำฝ่ายบริหารโดยประธานาธิบดีทรัมป์วันนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อผลักดันอิหร่านให้ยอมเจรจาแบบตัวต่อตัวกับสหรัฐเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์ เพราะเมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์หลายฝ่ายที่ทำกับอิหร่านในสมัยประธานาธิบดีโอบามาโดยเรียกข้อตกลงดังกล่าวว่าเป็นความหายนะ
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะแสดงความพร้อมเพื่อเจรจาทำความตกลงกับอิหร่านก็ตามแต่ก็ย้ำว่าตนจะไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์เพราะอิหร่านได้สนับสนุนการก่อการร้ายในลักษณะที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ตนก็รอโอกาสที่จะยกเลิกมาตรการลงโทษเหล่านี้และหวังว่าอิหร่านจะกลับมาเป็นประเทศที่รักสันติได้อีกครั้ง
ในส่วนของรัฐมนตรีคลังสหรัฐ นายสตีเวน มนูชิน กล่าวว่ามาตรการลงโทษที่สหรัฐเคยใช้ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในการปิดกั้นระบบเศรษฐกิจของอิหร่าน และว่าสหรัฐอาจประกาศมาตรการลงโทษทางการเงินเพิ่มเติมซึ่งมุ่งเป้าไปที่นายโมฮัมหมัด จาว๊าด ซารีฟรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านด้วย และเตือนว่าสถาบันการเงินในต่างประเทศรายใดซึ่งมีส่วนร่วมในธุรกรรมการเงินที่สำคัญกับบุคคลผู้ตกเป็นเป้ามาตรการลงโทษของสหรัฐครั้งใหม่นี้อาจจะถูกตัดออกจากการทำธุรกิจกับสหรัฐได้
