เจาะตลาดของเล่นในสหรัฐฯ ชี้ เด็กอเมริกันแห่ซื้อของเล่นตามรีวิวในยูทูป ด้านผู้ปกครองสรรหาของเล่นเสริมทักษะด้านการป้อนรหัสคำสั่งคอมพิวเตอร์ หรือ Coding ปูทางสู่อาชีพสายเทคโนโลยี
คลิปรีวิวของเล่นบนเว็บไซต์ยูทูป ที่โชว์การแกะกล่องของเล่นต่างๆ ในสายตาเด็กๆ เปรียบเสมือนการแกะของขวัญวันเกิดอีกรูปแบบหนึ่งที่ตื่นเต้นไม่แพ้กัน และเรียกยอดผู้ชมนับร้อยล้านวิวทีเดียว
จากกระแสในยูทูป ทำให้ของเล่นประเภทกล่องปริศนา ได้รับความนิยมตามไปด้วย ทั้งรูปแบบกล่องของเล่นหรือไข่พลาสติก หลากรูปทรงหลายสีสัน ที่ให้เด็กๆลุ้นหลังซื้อว่าพวกเขาจะได้ของเล่นที่อยากได้หรือไม่ อย่างตุ๊กตาเด็กน้อย Little Sprouts จาก Cabbage Patch Kids ซ่อนอยู่ในกล่องรูปผักกาดพลาสติกเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้สะสมกันมากกว่า 120 ตัว
Kelly Foley ตัวแทนจากบริษัท Wicked Cool Toys ยอมรับว่า ของเล่นประเภทกล่องปริศนากำลังได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆอย่างมาก พวกเขาชอบแกะกล่องของขวัญ ชอบความประหลาดใจที่ได้ค้นพบของในกล่องเหล่านั้น
กล่องปริศนาที่บรรจุของเล็กจิ๋วภายใน มีขนาดเล็ก สามารถหาซื้อได้ตามกำลังเงินค่าขนมของเด็กๆ ที่หยอดกระปุกซื้อไหว อย่างตุ๊กตา Little Sprout นี้สนนราคา 2 ดอลลาร์ 99 เซนต์ หรือราวอันละ 100 บาท
นอกเหนือจากกล่องปริศนาแล้ว หนึ่งในของเล่นที่ขายดีจากการแชร์ในยูทูปและโซเชียลมีเดีย นั่นคือ Fidget Spinner ของเล่นชิ้นเล็กรูปสามเหลี่ยมแบนขนาดเท่าฝ่ามือ พร้อมแกนหมุนมือให้ได้เล่นกันแก้เบื่อ
Jackie Breyer บรรณาธิการ The Toy Insider เล่าถึงปรากฏการณ์ของ Fidget Spinner ว่า เมื่อพวกเด็กๆเห็นว่าเพื่อนมีของเล่นแบบนี้ รวมทั้งมีวิธีการเล่นแปลกใหม่มาอวดกัน ก็อยากจะสะสมตามเพื่อน และพวกเขาไม่ได้อยากมี Fidget Spinner เพียงแค่อันเดียวแน่นอน
ด้านบริษัท WowWee ร่วมมือกับ Sesame Street พัฒนาหุ่นมือชื่อดังของ Sesame Street ให้เป็นหุ่นยนต์เอลโม่ ที่เรียกว่า Elmoji ใช้หลักการป้อนรหัสโค้ดคอมพิวเตอร์ หรือ Coding และการสื่อสารผ่านสัญลักษณ์แสดงอารมณ์อย่าง Emoji ซึ่งเป็นภาษาที่เด็กๆเข้าถึงได้
ขณะที่ LEGO ตัวต่อเสริมทักษะขวัญใจพ่อแม่และเด็กจากรุ่นสู่รุ่น ผนวกหลักการ Coding พื้นฐานสำหรับเด็กวัย 7 ขวบ มาผสมผสานกับตัวต่อ ให้เด็กๆเข้าใจพื้นฐานการป้อนข้อมูลคอมพิวเตอร์ผ่านการสร้างหุ่นยนต์จากตัวต่อที่ทำตามคำสั่งแบบง่ายๆ
บรรดากล่องปริศนา Fidget Spinner และของเล่นไฮเทคต่างๆนี้ นำมาจัดแสดงกันในงาน Sweet Suite ที่จัดขึ้นโดยเว็บไซต์รีวิวของเล่น The Toy Insider ในนครนิวยอร์ก สะท้อนว่าบริษัทผู้ผลิตของเล่นพยายามก้าวตามให้ทันภาษาของเด็กยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทันสมัย เข้าถึงง่าย
แต่ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน เด็กๆก็ยังคงเหมือนกันทุกยุคทุกสมัย
