ลิ้งค์เชื่อมต่อ

สหรัฐฯ - จีน เผยนโยบายต่อสู้โลกร้อนคนละแนวทางต่อที่ประชุมใหญ่ยูเอ็น


U.S. President Joe Biden speaks during the 76th Session of the U.N. General Assembly in New York City, Sept. 21, 2021.
U.S. President Joe Biden speaks during the 76th Session of the U.N. General Assembly in New York City, Sept. 21, 2021.

สองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดด้วย คือ สหรัฐฯ กับจีน ประกาศนโยบายต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกคนละแนวทาง ที่การประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ หรือ UNGA ที่นครนิวยอร์ก ในวันอังคาร

ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง สร้างความแปลกใจให้แก่ผู้ร่วมประชุมที่สหประชาชาติเป็นปีที่สองติดต่อกัน เมื่อประกาศว่าจีนจะยุติการสนับสนุนทางการเงินแก่โรงงานที่ใช้ถ่านหินในต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศแผนเพิ่มเงินช่วยเหลือเป็นสองเท่าแก่ประเทศยากจนภายในปี ค.ศ. 2024 รวม 11,400 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้ประเทศเหล่านั้นเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานสะอาดและจัดการกับผลกระทบของภาวะโลกร้อน

คำประกาศของผู้นำจีนและสหรัฐฯ ถือเป็นการกระตุ้นความสนใจก่อนการประชุมหารือเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก COP26 จะมีขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ ในอีกไม่ถึงหกสัปดาห์

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส กล่าวยินดีต่อคำประกาศของผู้นำทั้งสอง แต่ก็ยินยันว่าเรายังคงมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเพื่อให้การประชุม COP26 ที่กลาสโกว์ ประสบความสำเร็จ

FILE - Chinese President Xi Jinping delivers a speech in Beijing, July 6, 2021, in this photo released by Xinhua News Agency.
FILE - Chinese President Xi Jinping delivers a speech in Beijing, July 6, 2021, in this photo released by Xinhua News Agency.

นโยบายเลิกหนุนถ่านหินของจีน

คำประกาศของปธน.สี ในวันอังคาร อาจส่งผลกระทบต่อโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน 47 แห่งใน 20 ประเทศซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวการสำคัญที่ปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศโลก

โจแอนนา ลิวอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานและสภาพภูมิอากาศแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ กล่าวว่า คำประกาศนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันจีนคือผู้สนับสนุนด้านเงินทุนรายใหญ่สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศต่าง ๆ

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ระหว่างปี ค.ศ. 2013 - 2019 จีนอุดหนุนทางการเงินราว 13% ให้แก่โรงไฟฟ้าถ่านหินนอกประเทศจีน ซึ่งมากกว่าประเทศอื่น ๆ หลายเท่า ขณะที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพิ่งประกาศเมื่อต้นปีนี้ว่าได้ยกเลิกการสนับสนุนด้านเงินทุนแก่โรงไฟฟ้าถ่านหินแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คุณไบฟอร์ด เจิ้ง นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน E3G ระบุว่า แม้จีนได้เลิกสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศอื่น แต่จำนวนโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีนเองกลับเพิ่มขึ้นจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งการที่นโยบายใหม่ของรัฐบาลปักกิ่งจะได้ผลนั้นจำเป็นต้องมีการหยุดสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจีนเองพร้อมไปกับการไล่ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเก่า ๆ ด้วย

XS
SM
MD
LG