แดรกคูลา แฟรงเคนสไตน์ และสัตว์ประหลาดน่าเกลียดน่ากลัวมากมายที่แค่พูดชื่อก็ขนพองสยองเกล้ากันแล้ว ภูติผีลี้ลับเหล่านี้โลดแล่นในวงการบันเทิงอเมริกันมายาวนาน และยังทำให้เราขวัญผวาได้จนถึงวันนี้
สำหรับเทคกาลฮาโลวีนปีนี้ มีนิทรรศการประวัติความเป็นมาเรื่องสยอง Natural History of Horror ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติของนครลอส แองเจลีส พยายามจะช่วยบรรเทาความหวาดกลัวของเราลงได้บ้าง ด้วยการนำเสนอความเชื่อมโยงระหว่างความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์กับจินตนาการบรรเจิดที่ออกมาเป็นเหล่าผีปีศาจในฮอลลีวู้ด
เจฟฟ์ เพอร์เทิล จาก NBCUniversal ที่ดูแลนิทรรศการนี้ บอกว่า เหล่าสัตว์ประหลาดและภูติผีปีศาจในวงการบันเทิงมีวิวัฒนาการไปมาก จากการตีความหลายๆครั้งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เบธ เวอร์ลิง จากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติช่วยขยายความถึงวิวัฒนาการของปีศาจในฮอลลีวู้ด โดยหยิบยกแดรกคูลาและแฟรงเคนสไตน์ขึ้นมาอธิบายว่า พอพูดถึงแดรกคูลา เราจะนึกถึงท่านเคานต์ หรือขุนนางยุคเก่ายุโรป เป็นชายหน้าซีดสวมชุดทักซิโด้เนี้ยบเรียบโก้ และใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาในตอนกลางวัน แต่กลายเป็นค้างคาวผีดูดเลือดในยามกลางคืน ส่วนแฟรงเคนสไตน์ ก็จะมาในรูปของผีดิบร่างยักษ์ผิวหนังสีเขียวเย็บปะติดปะต่อกัน และมีน็อตที่คอ
นอกเหนือจากการจัดแสดงอุปกรณ์ต่างๆที่ช่วยอธิบายภูติผีปีศาจแต่ละตัวแล้ว นิทรรศการนี้อธิบายถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของหนังสยองขวัญในฮอลลีวู้ดด้วย อย่างเช่น สัตว์ประหลาดในภาพยนตร์เรื่อง Creature from the Black Lagoon เมื่อ 1954 ซึ่งดูเหมือนปลา สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้วมารวมกัน มิลลิเซนต์ แพรทริก ได้แรงบันดาลใจมาจากการค้นพบปลาโบราณขนาดใหญ่พันธุ์หนึ่งเมื่อปี 1938 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ในยุคนั้นเชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ไม่เคยพบมาก่อน และมีวิวัฒนาการที่เชื่อมโยงระหว่างสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำกับสัตว์บก
และไอคอนตลอดกาลอย่าง มัมมี่ ที่สร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1932 มีแรงบันดาลใจมาจากการค้นพบสุสานฟาโรห์ตุตันคาเมน เมื่อปี 1922 ซึ่งในนิทรรศการได้เปรียบเทียบผ้าคลุมมัมมี่ในภาพยนตร์และในการค้นพบที่แท้จริงให้เห็นถึงความคล้ายคลึง
ส่วนท่านเคานต์แดร็กคูลา ได้มีการเปรียบเทียบค้างคาวแวมไพร์กับค้างคาวจริงๆ และมีข้อมูลที่เล่าถึงเรื่องในอดีตที่ชาวยุโรปเคยคิดว่าเหล่าค้างคาวดูดเลือดนั้นเป็นต้นตอของโรคต่างๆ
เท่าที่เล่ามาอาจจะเริ่มเห็นความแตกต่างของเหล่าปีศาจในหนังกับความเป็นจริงอยู่มาก แต่เหล่าภูติผีและสัตว์ประหลาดเหล่านี้ มีจุดที่เหมือนกันในหนังสยองขวัญก็คือเรื่องความรัก
เจฟฟ์ อธิบายว่า ผู้สร้างหนังสยองขวัญพยายามหาจุดเชื่อมโยงให้มนุษย์เราเข้าใจเหล่าปีศาจในจินตนาการเหล่านี้มากขึ้น จึงใช้เรื่องนี้มาช่วยอธิบายความหมายของการมีชีวิตอยู่สอดแทรกด้วยความสยดสยอง และไม่ว่ารูปลักษณ์หรือที่มาของอสูรกายเหล่านี้จะต่างกันอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ผู้สร้างตัวละครต้องการจะสื่อก็คือ ปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวไม่น่าเข้าใกล้ทั้งหลายนี้ ล้วนแล้วแต่อยากได้รับการยอมรับและอยากได้รับความรักกันทั้งสิ้น