ผู้ชมชาวอาฟริกาต่างจับตามองนักกีฬาชาวเอริเทรียจากทางตะวันออกของทวีปอาฟริกาเพราะมักถือโอกาสขอลี้ภัยขณะออกไปแข่งขันกีฬาในต่างแดน
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา มีนักกีฬาจากประเทศเล็กๆนี้หลายสิบคนที่หลบหนีและขอลี้ภัยในประเทศอื่น นักวิจารณ์กล่าวว่านักกีฬาเหล่านี้หลบหนีการปกครองของคณะรัฐบาลที่ไม่ยอมมอบอำนาจคืนแก่ประชาชนตามสัญญา
ไมเคิล เทสฟาอี เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตเอริเทรียในกรุงลอนดอนกล่าวว่า เอริเทรียส่งนักกีฬาลงแข่งขันที่กรุงลอนดอนทั้งหมด 12 คน ลงแข่งในกีฬาหลายประเภท รวมทั้งวิ่งและปั่นจักรยาน เขายืนยันว่า นักกีฬาชาวเอริเทรียทั้งหมดจะเดินทางกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน
เจ้าหน้าที่สถานทูตเอริเทรียในลอนดอนกล่าวว่า เพราะพวกเขาเป็นคนเอริเทรียที่รักบ้านเกิด พงกเขาจะต้องกลับไปเอริเทรียอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
ทีมนักกีฬาโอลิมปิกส์เอริเทรียรวมทั้ง นายเซอเสนเน่ แทดเดส นักวิ่งฮาฟมาราธอนเหรียญเงิน ที่ประกาศว่าตนประสบความสำเร็จเพราะการสนับสนุนของประเทศบ้านเกิด
แต่ความรักชาติแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน ทีมฟุตบอลแห่งชาติเอริเทรีย กลายเป็นข่าวพาดหัวเมื่อหกปีที่แล้ว เมื่อสมาชิกทีมนักเตะสี่คนขอลี้ภัยระหว่างการแข่งขันในประเทศเคนยา
เมื่อสามปีที่แล้ว สมาชิกทีมฟุตบอลของเอริเทรียหายไปทั้งทีมหลังการแข่งขันในเคนยา แล้วไปโผล่ที่ออสเตรเลีย และเมื่อปีที่แล้ว นักเตะของทีมเอริเทรีย 13 คน หายตัวไปในแทนซาเนีย มีหลายคนเดินทางมาถึงเมืองฮูสตั้น สหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการตั้งถิ่นฐานใหม่แก่ผู้อพยพ
นายดารีโอ้ ลิโพเว็ค ผู้ประสานงานโครงการตั้งถิ่นฐานผู้อพยพกล่าว่า นักกีฬาเหล่านี้มีความกล้าหาญที่ยอมสละตำแหน่งในระดับทีมชาติเอริเทรีย มาเป็นผู้อพยพ
เขาบอกว่า นักฟุตบอลทีมชาตอเอริเทรีย 7 คนที่อยู่ที่ศูนย์ขณะนี้มีความสุขดีและซาบซึ้งที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่พวกเขาคิดถึงบ้านและครอบครัวที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
อย่างไรก็ดี ไม่แค่นักกีฬาชาวเอริเทรียเท่านั้นที่ต้องการลี้ภัย สมาชิกทีมฟุตบอลหญิงแห่งชาติคิวบาสองคนได้ขอลี้ภัยในแคนาดาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ นักกีฬาบาสเก็ตบอลอีก 5 คนของคิวบาได้หายตัวไประหว่างการแข่งขันในประเทศเปอร์โตริโก้ และเมื่อหลายสิบปีก่อน นักกีฬาจากสหภาพโซเวียตก็ตกเป็นข่าวในเรื่องนี้
นายเดเนี่ยล เบ็คเคลลี่ ผู้อำนวยการประจำอาฟริกาของ Human Rights Watch กล่าวว่า ปัญหาการเมืองและสิทธิมนุษยชนในเอริเทรียเป็นตัวผลักดันให้นักกีฬาขอลี้ภัย ประเทศในทะเลแดงนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของคนๆเดียวคือ ประธานาธิบดี อิเซเอียซ อัฟเวอร์กี้ มีการคุมขังผู้คัดค้านทางการเมืองจำนวนมากและริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน นอกจากนี้ ยังเลื่อนการเลือกตั้งออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้อำนวยการ Human Rights Watch ในอาฟริกากล่าวว่าการขอลี้ภัยของนักกีฬาแสดงถึงความเลวร้ายของปัญหาในเอริเทรีย โดยรวมแล้ว จำนวนคนที่หลบหนีจากประเทศเล็กๆนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าสองแสนคน หรือ ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดของประเทศ ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ
ไมเคิล เทสฟาอี เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตเอริเทรียในกรุงลอนดอนกล่าวว่า เอริเทรียส่งนักกีฬาลงแข่งขันที่กรุงลอนดอนทั้งหมด 12 คน ลงแข่งในกีฬาหลายประเภท รวมทั้งวิ่งและปั่นจักรยาน เขายืนยันว่า นักกีฬาชาวเอริเทรียทั้งหมดจะเดินทางกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน
เจ้าหน้าที่สถานทูตเอริเทรียในลอนดอนกล่าวว่า เพราะพวกเขาเป็นคนเอริเทรียที่รักบ้านเกิด พงกเขาจะต้องกลับไปเอริเทรียอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
ทีมนักกีฬาโอลิมปิกส์เอริเทรียรวมทั้ง นายเซอเสนเน่ แทดเดส นักวิ่งฮาฟมาราธอนเหรียญเงิน ที่ประกาศว่าตนประสบความสำเร็จเพราะการสนับสนุนของประเทศบ้านเกิด
แต่ความรักชาติแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคน ทีมฟุตบอลแห่งชาติเอริเทรีย กลายเป็นข่าวพาดหัวเมื่อหกปีที่แล้ว เมื่อสมาชิกทีมนักเตะสี่คนขอลี้ภัยระหว่างการแข่งขันในประเทศเคนยา
เมื่อสามปีที่แล้ว สมาชิกทีมฟุตบอลของเอริเทรียหายไปทั้งทีมหลังการแข่งขันในเคนยา แล้วไปโผล่ที่ออสเตรเลีย และเมื่อปีที่แล้ว นักเตะของทีมเอริเทรีย 13 คน หายตัวไปในแทนซาเนีย มีหลายคนเดินทางมาถึงเมืองฮูสตั้น สหรัฐอเมริกาภายใต้โครงการตั้งถิ่นฐานใหม่แก่ผู้อพยพ
นายดารีโอ้ ลิโพเว็ค ผู้ประสานงานโครงการตั้งถิ่นฐานผู้อพยพกล่าว่า นักกีฬาเหล่านี้มีความกล้าหาญที่ยอมสละตำแหน่งในระดับทีมชาติเอริเทรีย มาเป็นผู้อพยพ
เขาบอกว่า นักฟุตบอลทีมชาตอเอริเทรีย 7 คนที่อยู่ที่ศูนย์ขณะนี้มีความสุขดีและซาบซึ้งที่ได้รับความช่วยเหลือ แต่พวกเขาคิดถึงบ้านและครอบครัวที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง
อย่างไรก็ดี ไม่แค่นักกีฬาชาวเอริเทรียเท่านั้นที่ต้องการลี้ภัย สมาชิกทีมฟุตบอลหญิงแห่งชาติคิวบาสองคนได้ขอลี้ภัยในแคนาดาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และ นักกีฬาบาสเก็ตบอลอีก 5 คนของคิวบาได้หายตัวไประหว่างการแข่งขันในประเทศเปอร์โตริโก้ และเมื่อหลายสิบปีก่อน นักกีฬาจากสหภาพโซเวียตก็ตกเป็นข่าวในเรื่องนี้
นายเดเนี่ยล เบ็คเคลลี่ ผู้อำนวยการประจำอาฟริกาของ Human Rights Watch กล่าวว่า ปัญหาการเมืองและสิทธิมนุษยชนในเอริเทรียเป็นตัวผลักดันให้นักกีฬาขอลี้ภัย ประเทศในทะเลแดงนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของคนๆเดียวคือ ประธานาธิบดี อิเซเอียซ อัฟเวอร์กี้ มีการคุมขังผู้คัดค้านทางการเมืองจำนวนมากและริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน นอกจากนี้ ยังเลื่อนการเลือกตั้งออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้อำนวยการ Human Rights Watch ในอาฟริกากล่าวว่าการขอลี้ภัยของนักกีฬาแสดงถึงความเลวร้ายของปัญหาในเอริเทรีย โดยรวมแล้ว จำนวนคนที่หลบหนีจากประเทศเล็กๆนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่าสองแสนคน หรือ ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดของประเทศ ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ