สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ตะวันตกของมณฑลบริติชโคลัมเบียของแคนาดายกระดับรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง จนทำให้มีการคาดกันว่า รัฐบาลจะต้องสั่งอพยพประชาชนอีกไม่น้อยออกจากบ้านเรือนของตนในสัปดาห์นี้ หลังเปลวเพลิงทำลายทรัพย์สินไปแล้วเป็นจำนวนมากและทำให้ถนนหลวงสายหลักเส้นหนึ่งต้องปิดใช้งานบางส่วนไปด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ทางการมณฑลบริติชโคลัมเบียประกาศภาวะฉุกเฉินออกมาตั้งแต่ช่วงค่ำวันศุกร์ เพื่อเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการรับมือภาวะเสี่ยงจากภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และในวันเสาร์ มีประชาชนกว่า 35,000 คนที่ถูกสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือนไปแล้ว โดยอีก 30,000 คนได้รับการแจ้งให้เตรียมตัวรอฟังคำสั่งอพยพที่อาจมีออกมาหลังจากนี้
เหตุการณ์ไฟป่าแคนาดาครั้งล่าสุดนี้ที่มีชื่อว่า ไฟป่าแม็คดูกัลล์ครีก (McDougall Creek) มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเคโลว์นา (Kelowna) ซึ่งอยู่ห่างจากนครแวนคูเวอร์ไปทางตะวันออกเป็นระยะทางราว 300 กิโลเมตร และมีประชากรราว 150,000 คน แต่มีรายงานข่าวว่า สถานการณ์ที่แถบพรมแดนซึ่งติดกับสหรัฐฯ และพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกประสบภาวะที่รุนแรงกว่า เนื่องจากภาวะแล้งจัด
เดวิด อีบี มุขมนตรีมณฑลบริติชโคลัมเบีย ยังได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้มีการเดินทางที่ไม่มีความจำเป็นตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นมา เพื่อเปิดพื้นที่รองรับผู้อพยพและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ ทางการเรียกร้องขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่มีรายงานไฟป่าและหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องโดรนเพื่อถ่ายภาพใด ๆ เนื่องจากอาจเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้
ไฟป่าแคนาดา
จนบัดนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการณ์ของอาคารบ้านเรือนที่ได้รับถูกทำลายไปในเหตุการณ์ครั้งนี้
ทั้งนี้ แม้ไฟป่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างประจำในแคนาดา ความรุนแรงที่ขยายวงกว้างและระดับของผลกระทบต่อชีวิตประชาชนทำให้ภัยพิบัติครั้งปัจจุบันเป็นครั้งที่เลวร้ายที่สุดในฤดูกาลไฟป่าของประเทศไปแล้ว
ไฟป่าครั้งนี้ทำให้ต้องมีการใช้ทรัพยากรของรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางอย่างมหาศาล ทั้งยังต้องมีการพึ่งพาการสนับสนุนจาก 13 ประเทศไปแล้ว และทำให้มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอย่างน้อย 4 รายเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ด้วย
- ที่มา: รอยเตอร์