หลายกลุ่มหลายองค์กรในฟิลิปปินส์ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาของฟิลิปปินส์ว่า พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันพุธนั้น มีหลายส่วนที่ขัดกับรัฐธรรมนูญของฟิลิปปินส์ เช่นเป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และมีส่วนที่ยังคลุมเครือโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการฟ้องหมิ่นประมาท
กฎหมายใหม่ฉบับนี้ของฟิลิปปินส์มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการโจรกรรมหรือล้วงข้อมูลทางอินเทอร์เนต ตลอดจนการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารของเด็กและเยาวชน แต่นักวิจารณ์ระบุว่าการที่กฎหมายค่อนข้างคลุมเครือทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด โดยกฎหมายฉบับนี้ระบุว่าใครก็ตามที่โพสต์ข้อความหรือรูปภาพทางอินเทอร์เนตที่แสดงถึงการหมิ่นประมาท จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 12 ปี ซึ่งเป็นโทษที่หนักกว่าโทษหมิ่นประมาทตามปกติถึง 2 เท่า
ส.ว Teofisto Guingona ผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ชี้ว่า สมาชิกผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Tweeter คือผู้ที่มีเสี่ยงจากการถูกลงโทษหรืออาจต้องรับผิดชอบในข้อความที่ไม่เหมาะสม เพราะกฎหมายยังคลุมเครือว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่ และหากเพียงแต่ส่งข้อความต่อๆกัน หรือกด “Like” ข้อความที่ไม่เหมาะสมทาง Facebook จะต้องมีความผิดไปด้วยหรือไม่
ในขณะเดียวกัน พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของฟิลิปปินส์ฉบับนี้ยังให้อำนาจแก่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในการปิดกั้นหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เนตที่มองแล้วว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย
ฟิลิปปินส์เป็นอีกหนึ่งในหลายๆประเทศที่ประสบปัญหาในการปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เนตด้วยกฎหมายที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเช่นทนายความ Harry Rogue เชื่อว่ากฎหมายใหม่ของฟิลิปปินส์นี้ไปไกลเกินไป และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้มีการหมิ่นประมาททางอินเทอร์เนตมากยิ่งขึ้น
ทางด้านนาย Edwin Lacierda โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีคำแถลงในวันพุธว่ารัฐบาลตระหนักถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ แต่ถึงอย่างไรกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น
โฆษก Edwin Lacierda กล่าวว่านโยบายของรัฐบาลฟิลิปปินส์นั้นชัดเจน นั่นคือการกำหนดกฎหมายที่สามารถใช้ในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต โดยเฉพาะในเรื่องการประพฤติผิดทางเพศทางอินเทอร์เนตและการล่อลวงต่างๆผ่านโลกไซเบอร์ ซึ่งฟิลิปปินส์ยังไม่เคยมีกฎหมายลักษณะนี้มาก่อน
กฎหมายใหม่ฉบับนี้ของฟิลิปปินส์มีจุดประสงค์เพื่อป้องกันการโจรกรรมหรือล้วงข้อมูลทางอินเทอร์เนต ตลอดจนการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารของเด็กและเยาวชน แต่นักวิจารณ์ระบุว่าการที่กฎหมายค่อนข้างคลุมเครือทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกใช้ในทางที่ผิด โดยกฎหมายฉบับนี้ระบุว่าใครก็ตามที่โพสต์ข้อความหรือรูปภาพทางอินเทอร์เนตที่แสดงถึงการหมิ่นประมาท จะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 12 ปี ซึ่งเป็นโทษที่หนักกว่าโทษหมิ่นประมาทตามปกติถึง 2 เท่า
ส.ว Teofisto Guingona ผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ชี้ว่า สมาชิกผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Tweeter คือผู้ที่มีเสี่ยงจากการถูกลงโทษหรืออาจต้องรับผิดชอบในข้อความที่ไม่เหมาะสม เพราะกฎหมายยังคลุมเครือว่าใครควรเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่ และหากเพียงแต่ส่งข้อความต่อๆกัน หรือกด “Like” ข้อความที่ไม่เหมาะสมทาง Facebook จะต้องมีความผิดไปด้วยหรือไม่
ในขณะเดียวกัน พ.ร.บ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ของฟิลิปปินส์ฉบับนี้ยังให้อำนาจแก่รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในการปิดกั้นหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลทางอินเทอร์เนตที่มองแล้วว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย
ฟิลิปปินส์เป็นอีกหนึ่งในหลายๆประเทศที่ประสบปัญหาในการปราบปรามอาชญากรรมทางอินเทอร์เนตด้วยกฎหมายที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเช่นทนายความ Harry Rogue เชื่อว่ากฎหมายใหม่ของฟิลิปปินส์นี้ไปไกลเกินไป และอาจเป็นการเปิดโอกาสให้มีการหมิ่นประมาททางอินเทอร์เนตมากยิ่งขึ้น
ทางด้านนาย Edwin Lacierda โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์มีคำแถลงในวันพุธว่ารัฐบาลตระหนักถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ แต่ถึงอย่างไรกฎหมายว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น
โฆษก Edwin Lacierda กล่าวว่านโยบายของรัฐบาลฟิลิปปินส์นั้นชัดเจน นั่นคือการกำหนดกฎหมายที่สามารถใช้ในการจัดการกับปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต โดยเฉพาะในเรื่องการประพฤติผิดทางเพศทางอินเทอร์เนตและการล่อลวงต่างๆผ่านโลกไซเบอร์ ซึ่งฟิลิปปินส์ยังไม่เคยมีกฎหมายลักษณะนี้มาก่อน