ชายอินเดียสองนายเปิดร้านขายเสื้อผ้าผู้ชายยี่ห้อฝรั่งในเขตผู้มีอันจะกินในเมืองอาเหม็ดดาบัด ในรัฐกุจราต เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม พวกเขาไม่รู้ว่าชื่อร้านที่เลือกจะกลายเป็นสาเหตุของการประท้วง
ป้ายร้านเขียนชื่อ Hitler เป็นภาษาอังกฤษพร้อมเครื่องหมายสวัสดิกะ (swastika) ที่ฮิตเลอร์ใช้เป็นเครื่องหมายของนาซี เครื่องหมายสวัสดิกะนี้เป็นเครื่องหมายโบราณมีความหมายที่ดีและหมายถึงโชคลาภในภาษาฮินดูด้วย
นายราเจช ชาช์ เจ้าของร้านคนแรกบอกว่าเขาและเพื่อนตั้งชื่อร้านว่าฮิตเล่อร์เพราะต้องการให้เกียรติแก่คุณปู่ของเพื่อนที่ลงทุนร่วมกันเพราะปู่เป็นคนเคร่งครัดมากจนได้ชื่อเล่นว่า “ฮิตเลอร์” พวกเขาไม่รู้เลยว่าฮิตเลอร์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารคนหลายล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
นายราเจช ชาช์บอกว่าตอนแรกพวกเขาไม่รู้จักว่าฮิตเลอร์เป็นใคร ไม่รู้ว่าเขาสังหารคนอื่น ตนเพียงต้องการหาชื่อที่ฟังแล้วติดหู เป็นการรำลึกถึงปู่ของเพื่อ ไม่ได้ตั้งใจให้หมายถึงฮิตเลอร์ของนาซี เจ้าของร้านบอกว่าชื่อร้านนี้ช่วยดึงลูกค้าเข้าร้านจำนวนมากและธุรกิจกำลังไปได้สวย
ไม่เฉพาะชื่อฮิตเลอร์จะดึงลูกค้าเข้าร้านเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุให้มีคนประท้วงด้วย ชุมชนชาวยิวขนาดเล็กในเมืองอาเหม็ดดาบัดไม่พอใจชื่อของร้านและได้เรียกร้องให้เจ้าของร้านเปลี่ยนชื่อร้านเสียใหม่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ร่วมประท้วงรวมทั้งกลุ่ม Anti-Defamation League ที่ตั้งอยู่ในมหานครนิวยอร์คและทำงานเพื่อต่อต้านการรังเกียจชาวยิว
เจ้าของร้านชาวอินเดียทั้งสองนายปฏิเสธไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องอยู่พักหนึ่ง แต่แรงกดดันให้เปลี่ยนชื่อร้านเริ่มมากขึ้นเรื่อย กงศุลอิสราเอลประจำมุมไบได้เอ่ยปากเรื่องนี้ต่อรัฐบาลท้องถิ่นแห่งรัฐกุจราตตอนเดินทางไปเยี่ยม เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้ออกคำเตือนถึงเจ้าของร้านว่าหากไม่ยอมเปลี่ยนชื่อร้าน จะยกเลิกใบอนุญาตทำธุรกิจ
แรงกดดันท่วมท้นทำให้เจ้าของร้านตกลงปลงใจที่จะเปลี่ยนชื่อร้าน แต่ ราเจช ชาช์ชี้ว่าลูกค้าของร้านไม่เคยเอ่ยปากว่าไม่เห็นด้วยกับชื่อร้าน เขาบอกว่าลูกค้าชอบชื่อนี้ ลูกค้าคนแรกบอกว่าเดินเข้าร้านเพราะชอบชื่อ เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีลูกค้าคนไหนบอกใ้ห้เขาเปลี่ยนชื่อร้านเพราะทุกคนชอบชื่อร้านฮิตเลอร์
คุณเอสเธอร์ เดวิด เป็นนักเขียนชาวอินเดียเชื้อสายยิวที่อาศัยในเมืองอาเหม็ดดาบัด เธอเป็นหนึ่งบรรดาชาวยิวคนแรกๆที่พยายามชักจูงใจให้เจ้าของร้านเสื้อผ้าฮิตเลอร์เปลี่ยนชื่อร้าน เธอดีใจที่เสียงของคนยิวกลุ่มน้อยได้รับการรับฟังจากคนในสังคมเพราะคนเราไม่ควรละเลยประวัติศาสตร์
คุณเดวิด กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลีว่าคนเราหลงลืมง่าย เกิดอาการความจำสั้น เพราะให้ความสำคัญกับการค้าการขายโดยไม่สนใจประวัติศาสตร์ หากเราลืมประวัติศาสตร์ เรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นก็จะเกิดซ้ำรอยอีกและเธอเห็นว่าคนเราทุกคนควรระมัดระวังในเรื่องแบบนี้
ความอื้อฉาวแนวนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อหกปีก่อนในอินเดีย เจ้าของร้านกาแฟในเมืองมุมไบ ถูกกดดันให้เปลี่ยนชื่อจากร้านกาแฟ Hitler’s Cross
เมื่อปีที่แล้วละครทีวีอินเดียเรื่อง Hitler’s Sister ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เมื่อนำไปออกอากาศในสหรัฐอเมริกาหลังจากมีการประท้วงจากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการเหยียดชาวยิวนำโดยกลุ่ม Anti-Defamation League ละครเรื่องนี้เสนอเรื่องราวของหญิงสาวที่มีระเบียบวินัยสูง แต่ละครนี้ยังใช้ชื่อเดิมเมื่อออกอากาศในอินเดีย
นายชาช์ เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าฮิลเล่อร์สโตร์กล่าวปิดท้ายรายงานจากผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลีว่าเขากำลังหาชื่อใหม่ให้ร้าน เขาอยากตั้งชื่อร้านตามคนดังๆในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการยกย่องและจดจำในด้านดี เท่านั้น เขาบอกว่าต้องคิดกันหลายร้อยตลบก่อนตัดสินใจ ชื่อ “นโปเลียน” ก็ฟังดูเข้าที แต่เขายังไม่แน่ใจว่าชื่อนี้จะก่อให้เกิดความอื้อฉาวหรือไม่
ป้ายร้านเขียนชื่อ Hitler เป็นภาษาอังกฤษพร้อมเครื่องหมายสวัสดิกะ (swastika) ที่ฮิตเลอร์ใช้เป็นเครื่องหมายของนาซี เครื่องหมายสวัสดิกะนี้เป็นเครื่องหมายโบราณมีความหมายที่ดีและหมายถึงโชคลาภในภาษาฮินดูด้วย
นายราเจช ชาช์ เจ้าของร้านคนแรกบอกว่าเขาและเพื่อนตั้งชื่อร้านว่าฮิตเล่อร์เพราะต้องการให้เกียรติแก่คุณปู่ของเพื่อนที่ลงทุนร่วมกันเพราะปู่เป็นคนเคร่งครัดมากจนได้ชื่อเล่นว่า “ฮิตเลอร์” พวกเขาไม่รู้เลยว่าฮิตเลอร์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารคนหลายล้านคนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
นายราเจช ชาช์บอกว่าตอนแรกพวกเขาไม่รู้จักว่าฮิตเลอร์เป็นใคร ไม่รู้ว่าเขาสังหารคนอื่น ตนเพียงต้องการหาชื่อที่ฟังแล้วติดหู เป็นการรำลึกถึงปู่ของเพื่อ ไม่ได้ตั้งใจให้หมายถึงฮิตเลอร์ของนาซี เจ้าของร้านบอกว่าชื่อร้านนี้ช่วยดึงลูกค้าเข้าร้านจำนวนมากและธุรกิจกำลังไปได้สวย
ไม่เฉพาะชื่อฮิตเลอร์จะดึงลูกค้าเข้าร้านเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุให้มีคนประท้วงด้วย ชุมชนชาวยิวขนาดเล็กในเมืองอาเหม็ดดาบัดไม่พอใจชื่อของร้านและได้เรียกร้องให้เจ้าของร้านเปลี่ยนชื่อร้านเสียใหม่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่ร่วมประท้วงรวมทั้งกลุ่ม Anti-Defamation League ที่ตั้งอยู่ในมหานครนิวยอร์คและทำงานเพื่อต่อต้านการรังเกียจชาวยิว
เจ้าของร้านชาวอินเดียทั้งสองนายปฏิเสธไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องอยู่พักหนึ่ง แต่แรงกดดันให้เปลี่ยนชื่อร้านเริ่มมากขึ้นเรื่อย กงศุลอิสราเอลประจำมุมไบได้เอ่ยปากเรื่องนี้ต่อรัฐบาลท้องถิ่นแห่งรัฐกุจราตตอนเดินทางไปเยี่ยม เจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นได้ออกคำเตือนถึงเจ้าของร้านว่าหากไม่ยอมเปลี่ยนชื่อร้าน จะยกเลิกใบอนุญาตทำธุรกิจ
แรงกดดันท่วมท้นทำให้เจ้าของร้านตกลงปลงใจที่จะเปลี่ยนชื่อร้าน แต่ ราเจช ชาช์ชี้ว่าลูกค้าของร้านไม่เคยเอ่ยปากว่าไม่เห็นด้วยกับชื่อร้าน เขาบอกว่าลูกค้าชอบชื่อนี้ ลูกค้าคนแรกบอกว่าเดินเข้าร้านเพราะชอบชื่อ เจ้าของร้านบอกว่าไม่มีลูกค้าคนไหนบอกใ้ห้เขาเปลี่ยนชื่อร้านเพราะทุกคนชอบชื่อร้านฮิตเลอร์
คุณเอสเธอร์ เดวิด เป็นนักเขียนชาวอินเดียเชื้อสายยิวที่อาศัยในเมืองอาเหม็ดดาบัด เธอเป็นหนึ่งบรรดาชาวยิวคนแรกๆที่พยายามชักจูงใจให้เจ้าของร้านเสื้อผ้าฮิตเลอร์เปลี่ยนชื่อร้าน เธอดีใจที่เสียงของคนยิวกลุ่มน้อยได้รับการรับฟังจากคนในสังคมเพราะคนเราไม่ควรละเลยประวัติศาสตร์
คุณเดวิด กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลีว่าคนเราหลงลืมง่าย เกิดอาการความจำสั้น เพราะให้ความสำคัญกับการค้าการขายโดยไม่สนใจประวัติศาสตร์ หากเราลืมประวัติศาสตร์ เรื่องเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นก็จะเกิดซ้ำรอยอีกและเธอเห็นว่าคนเราทุกคนควรระมัดระวังในเรื่องแบบนี้
ความอื้อฉาวแนวนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อหกปีก่อนในอินเดีย เจ้าของร้านกาแฟในเมืองมุมไบ ถูกกดดันให้เปลี่ยนชื่อจากร้านกาแฟ Hitler’s Cross
เมื่อปีที่แล้วละครทีวีอินเดียเรื่อง Hitler’s Sister ต้องเปลี่ยนชื่อใหม่เมื่อนำไปออกอากาศในสหรัฐอเมริกาหลังจากมีการประท้วงจากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการเหยียดชาวยิวนำโดยกลุ่ม Anti-Defamation League ละครเรื่องนี้เสนอเรื่องราวของหญิงสาวที่มีระเบียบวินัยสูง แต่ละครนี้ยังใช้ชื่อเดิมเมื่อออกอากาศในอินเดีย
นายชาช์ เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าฮิลเล่อร์สโตร์กล่าวปิดท้ายรายงานจากผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงนิวเดลลีว่าเขากำลังหาชื่อใหม่ให้ร้าน เขาอยากตั้งชื่อร้านตามคนดังๆในประวัติศาสตร์ ที่ได้รับการยกย่องและจดจำในด้านดี เท่านั้น เขาบอกว่าต้องคิดกันหลายร้อยตลบก่อนตัดสินใจ ชื่อ “นโปเลียน” ก็ฟังดูเข้าที แต่เขายังไม่แน่ใจว่าชื่อนี้จะก่อให้เกิดความอื้อฉาวหรือไม่