ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'วินฟาสต์' ตั้งเป้าอีก 2 เดือนเริ่มขายรถยนต์ไฟฟ้าในไทย


รถยนต์ไฟฟ้าของ Vinfast ถูกนำมาโชว์ที่งานแสดงรถยนต์นครลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022
รถยนต์ไฟฟ้าของ Vinfast ถูกนำมาโชว์ที่งานแสดงรถยนต์นครลอสแอนเจลิส เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022

บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนาม วินฟาสต์ (VinFast) ประกาศเมื่อวันอังคารว่า ทางบริษัทมีแผนจะขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และได้ทำความตกลงเบื้องต้นกับผู้จัดจำหน่ายรถยนต์เพื่อเปิดศูนย์จำหน่ายรถยนต์วินฟาสต์ในไทย

วินฟาสต์ ซึ่งเพิ่งเริ่มส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าเมื่อปีที่แล้วจะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ของไทยซึ่งมีบริษัทรถยนต์ของจีน เช่น BYD เป็นผู้ครองตลาด และบริษัทเทสลา (Tesla) ของสหรัฐฯ ก็เพิ่งเข้าไปร่วมแข่งขันด้วย

วู ดาง เยน ฮาง ซีอีโอของวินฟาสต์ ไทยแลนด์ (VinFast Thailand) กล่าวกับเอพีว่า ทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะเริ่มการขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าในอีกสองเดือนข้างหน้า โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับราคาต่อไป

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยแม้มีขนาดเล็กแต่ก็เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ จากรัฐบาล ซึ่งมีแผนจะเพิ่มการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ถึงระดับ 30% ของปริมาณการผลิตยานพาหนะทั้งหมด 2.5 ล้านคันในแต่ละปี

เมื่อปี 2022 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยมีสัดส่วนราว 58% ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมากกกว่าตลาดของเวียดนามและอินโดนีเซีย แต่เมื่อเทียบกับตลาดโลก ไทยยังมีขนาดเพียง 0.5% เท่านั้น อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิจัยด้านการตลาด Counterpoint Research

โรงงงานผลิตรถยนต์ของ Vinfast ที่เวียดนาม
โรงงงานผลิตรถยนต์ของ Vinfast ที่เวียดนาม

รัฐบาลไทยพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศด้วยการให้ผลประโยชน์ด้านภาษีทั้งในด้านการผลิตและการขาย เช่นการลดภาษีนำเข้าและให้เงินอุดหนุนเพื่อให้ราคาถูกลง

วินฟาสต์มีแผนจะทำงานร่วมกับบริษัท วี-กรีน (V-Green) ผู้ผลิตสถานีจ่ายไฟฟ้าซึ่งอยู่ในเครือบริษัทเดียวกัน คือ วินกรุ๊ป (Vingroup) เพื่อสร้างสถานีจ่ายไฟฟ้าในประเทศไทย แม้ในช่วงแรกอาจต้องใช้วิธีพึ่งพาสถานีที่มีอยู่แล้วไปก่อน

นอกจากไทยแล้ว วินฟาสต์กำลังขยายการลงทุนในหลายประเทศ รวมทั้งการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐนอร์ธแคโรไลนาซึ่งจะเริ่มการผลิตในปีนี้ ตลอดจนการก่อสร้างโรงงานในอินเดีย และอินโดนีเซีย โดยตั้งเป้าว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าใน 50 ประเทศทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้

เมื่อปีที่แล้ว วินฟาสต์นำหุ้นออกขายในสหรัฐฯ และราคาหุ้นดีดขึ้นไปอย่างรวดเร็วในช่วงแรก ๆ จนทำให้บริษัทรถยนต์เวียดนามแห่งนี้มีมูลค่าการตลาดสูงกว่าบริษิทรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ อย่างเช่น เจเนรัลมอเตอร์ส (General Motors Corp.) และฟอร์ดมอเตอร์ (Ford Motor Co.) ก่อนที่ราคาหุ้นจะร่วงดิ่งลงมาเรื่อย ๆ จนทำให้บริษัทสูญเสียมูลค่าไปกว่า 1,400 ล้านดอลลาร์ในช่วงสามไตรมาสแรกของปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกัน รถยนต์ไฟฟ้าของวินฟาสต์ที่ออกขายในตลาดอเมริกากลับไม่เป็นที่นิยมมากนัก และได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบ แต่ทางบริษัทยืนยันว่าจะสู้ในสหรัฐฯ ต่อไปโดยยืนยันว่า หากสามารถประสบความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้ได้ ก็จะแข่งขันได้ในทุกตลาดทั่วโลก

  • ที่มา: เอพี

กระดานความเห็น

XS
SM
MD
LG