ในขณะที่เซียร่าลีโอนกำลังพยายามฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบล่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ประเทศแห่งนี้ต้องหันไปให้ความสนใจแก่ปัญหาอื่นๆ ที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ด้วย รวมทั้งปัญหาสาหร่ายทะเลจำนวนมากที่ถูกพัดขึ้นมาติดตามชายหาดที่ยังสมบูรณ์แห่งต่างๆ ของประเทศ
ปัญหาสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลพันธุ์ sargassum นี้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่ยาวนานเกือบ 6 เดือน
ชายหาดต่างๆ ในประเทศมีสาหร่ายปกคลุมไปทั่วในปริมาณมากเกินกว่าปกติ ทำให้หลายคนเชื่อว่าอาจจะเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน
คุณ Edward Bendu รักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของเซียร่าลีโอน หวังว่าปัญหานี้จะได้รับความสนใจจากชาติต่างๆ ทั่วโลก เขากล่าวว่าชายหาดทั่วชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกาตะวันตกต่างปกคลุมไปด้วยสาหร่ายปริมาณมหาศาลและน่าจะเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน
ปัญหาสาหร่ายปกคลุมชายหาดยังเกิดขึ้นในหมู่เกาะเเคริบเบียนอีกด้วย คุณ Raymond Johnson หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาสาหร่ายทะเลขึ้นมาติดบนชายหาด กล่าวว่าสาหร่ายเติบโตได้ต้องพึ่งสารอาหารที่มีอยู่ในท้องทะเล และเมื่อมีสารอาหารเหล่านี้ในปริมาณสูง สาหร่ายก็จะเติบโตอย่างรวดเร็วและเพิ่มจำนวนหลายเท่าตัว
คุณ Johnson กล่าวเสริมว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลที่อุ่นขึ้นอาจเป็นสาเหตุให้สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลพันธุ์ sargassum ปริมาณมากจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือถูกพัดไปติดตามชายหาดในแอฟริกาตะวันตก สาหร่ายพันธุ์นี้เติบโตในมหาสมุทรแอตเเลนติกเหนือ
คุณ Johnson ชี้ว่าเมื่อน้ำทะเลอุ่นขึ้น จะส่งผลต่อความแรงของลมในทะเลที่ส่งผลต่อความเร็วของคลื่นในน้ำทะเล และเชื่อว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน คุณ Johnson ชี้ว่าความร้อนที่เพิ่มขึ้นในน้ำทะเลจะส่งผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างมหาสมุทรกับชั้นบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น และการไหลเวียนของความร้อนระหว่างน้ำทะเลกับชั้นบรรยากาศนี้ มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมหาสมุทร
ปัญหาสาหร่ายทะเลปริมาณมหาศาลถูกพัดขึ้นไปติดตามชายหาดในเซียร่าลีโอน ยังสร้างความกังวลแก่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวด้วย ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนน้อยก็ตาม
คุณ Yassin Kargbo ผู้จัดการทั่วไปแห่งคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติกล่าวว่าสาหร่ายทำให้ชายหาดหมดความสวยงามเเละยังส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย
เขากล่าวว่า ทางคณะกรรมการกังวลว่าปัญหานี้อาจจะส่งผลเสียต่อธุรกิจการท่องเที่ยวทั้งหมด โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชายทะเล และเห็นว่าต้องจัดการกับเรื่องนี้
เขากล่าวว่ามีการระดมความคิดเห็นกันว่าควรนำสาหร่ายไปใช้ให้เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง รวมทั้งนำไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพหรืออาจจะเเปรสภาพให้เป็นปุ๋ยเพื่อใช้ในภาคการเกษตร
